ซื้อยากินเอง ตัวการนำพาโรคไตให้มาเยือน

การซื้อยากินเองโดยไม่ปรึกษาแพทย์อาจดูเหมือนเป็นทางเลือกที่สะดวกและรวดเร็วในการบรรเทาอาการเจ็บป่วยเล็กน้อย แต่ในความเป็นจริง การกระทำดังกล่าวอาจเป็นสาเหตุสำคัญที่นำไปสู่การเกิด โรคไต เรื้อรังได้อย่างไม่รู้ตัว บทความนี้จะอธิบายถึงอัตรายของการซื้อยากินเอง ความเสี่ยงของการใช้ยาโดยไม่ระมัดระวัง และวิธีการป้องกันเพื่อรักษาสุขภาพไตของคุณให้แข็งแรง​

อันตรายของการซื้อยากินเอง

การ ซื้อยากินเอง โดยไม่ได้รับคำแนะนำจากแพทย์หรือเภสัชกร เป็นพฤติกรรมที่พบได้ทั่วไปในสังคมไทย ซึ่งแม้จะดูเหมือนเป็นทางเลือกที่สะดวกและประหยัดเวลา แต่ก็แฝงไปด้วยความเสี่ยงที่อาจร้ายแรงถึงชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับอวัยวะที่ต้องรับภาระหนักในการขจัดสารพิษออกจากร่างกายอย่าง “ไต”

ยาใช้ภายใน: ความเสี่ยงต่อโรคไตหากใช้ผิดวิธี

ยาใช้ภายใน หมายถึงยาที่รับประทานเข้าสู่ร่างกาย เช่น ยาแก้ปวด ยาแก้อักเสบ ยาปฏิชีวนะ และยาสมุนไพรต่าง ๆ การใช้ยาเหล่านี้โดยการซื้อยากินเอง ไม่ปรึกษาแพทย์ และใช้ในปริมาณที่ไม่เหมาะสม อาจส่งผลเสียต่อไตได้​ ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะ “พิษต่อไต” เช่น ไตอักเสบเฉียบพลัน ไตวายเฉียบพลัน ภาวะโปรตีนรั่วจากไต หรือ โรคไต เรื้อรังในระยะยาว

ยาแก้ปวดและยาแก้อักเสบ

ยาในกลุ่ม NSAIDs (Non-Steroidal Anti-Inflammatory Drugs) เช่น ไอบูโพรเฟน และนาโปรเซน แม้จะช่วยบรรเทาอาการปวดได้ดี แต่หากใช้เป็นเวลานานหรือในปริมาณมาก อาจทำให้ไตทำงานหนักและเสี่ยงต่อการเกิด โรคไต เรื้อรัง​

ยาปฏิชีวนะ

การใช้ยาปฏิชีวนะโดยไม่จำเป็น หรือใช้ไม่ครบตามที่กำหนด อาจทำให้เชื้อแบคทีเรียดื้อยา และบางชนิดยังมีผลข้างเคียงต่อไต เช่น ยาในกลุ่มอะมิโนไกลโคไซด์​

ยาสมุนไพร

แม้ว่ายาสมุนไพรจะถูกมองว่าเป็นธรรมชาติและปลอดภัย แต่ในความเป็นจริง สมุนไพรบางชนิดอาจมีผลต่อการทำงานของไตโดยตรง หรือมีการปนเปื้อนของโลหะหนัก ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพทำให้เป็น โรคไต ได้​ เช่น ยาลูกกลอนที่มีการปนเปื้อนของสารสเตียรอยด์ สมุนไพรจีนบางชนิดที่มีสารหนูหรือโลหะหนัก

ซื้อยากินเอง ทางลัดสู่โรคไต

การ ซื้อยากิน เองโดยไม่ปรึกษาแพทย์ อาจนำไปสู่การใช้ยาอย่างไม่เหมาะสม เช่น การใช้ยาเกินขนาด การใช้ยาที่ไม่เหมาะกับอาการ หรือการใช้ยาที่มีปฏิกิริยาต่อกัน ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถทำให้ไตทำงานหนักและเสี่ยงต่อการเกิด โรคไตเรื้อรังได้​

ทำความรู้จักกับโรคไต

โรคไต เรื้อรัง (Chronic Kidney Disease: CKD) คือภาวะที่ไตสูญเสียความสามารถในการกรองของเสียและน้ำส่วนเกินออกจากร่างกายอย่างช้าๆ และต่อเนื่อง หากไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม อาจนำไปสู่ภาวะไตวายระยะสุดท้าย ซึ่งต้องพึ่งพาการฟอกไตหรือการปลูกถ่ายไตเพื่อดำรงชีวิตต่อไป

วิธีป้องกันโรคไตจากการใช้ยา

ปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยา

ยาที่ต้องรับประทาน คือ ยาใช้ภายใน ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยา เพื่อให้แน่ใจว่ายาที่รับประทานเข้าไปนั้นเหมาะสมกับอาการและไม่มีผลข้างเคียงก่อให้เกิด โรคไต ได้​

หลีกเลี่ยงการใช้ยาเกินขนาด

ปฏิบัติตามคำแนะนำในการใช้ยาอย่างเคร่งครัด ไม่เพิ่มขนาดยาเอง ​อย่ากินยาต่อเนื่องนานเกินไปหากไม่ได้รับคำแนะนำ

หลีกเลี่ยงการใช้ยาร่วมกันโดยไม่จำเป็น

การใช้ยาหลายชนิดพร้อมกันอาจทำให้เกิดปฏิกิริยาระหว่างยา ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อการทำงานของไต​ มีความเสี่ยงที่เป็น โรคไต ได้

ตรวจสุขภาพไตเป็นประจำ

หากต้องใช้ยาต่อเนื่อง ควรตรวจสุขภาพไตเป็นระยะ เพื่อประเมินการทำงานของไต ​ (ค่า Creatinine, GFR)

ซื้อยา ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร หรือยาสมุนไพรจากแหล่งที่เชื่อถือได้

การซื้อยาจากแหล่งที่ไม่ถูกต้อง เช่น ร้านค้าออนไลน์ที่ไม่ได้รับอนุญาต หรือร้านขายยานอกระบบ อาจทำให้ได้รับยาปลอม ยาหมดอายุ หรือยาที่เก็บรักษาไม่ถูกต้อง ซึ่งไม่เพียงแต่ไม่มีประสิทธิภาพในการรักษา แต่ยังอาจมีสารปนเปื้อนที่เป็นอันตรายต่อไต ก่อให้เกิด โรคไต ขึ้นได้ เช่น สารตะกั่ว แคดเมียม หรือสารหนู

สรุป

การ ซื้อยากินเอง แม้จะดูเป็นเรื่องเล็กน้อยหรือสะดวกในชีวิตประจำวัน แต่แท้จริงแล้วแฝงด้วยความเสี่ยงอย่างมาก โดยเฉพาะต่อไต ซึ่งเป็นอวัยวะสำคัญที่ทำหน้าที่กรองของเสียและขับสารพิษออกจากร่างกาย ยาหลายชนิด โดยเฉพาะ ยาใช้ภายใน เช่น ยาแก้อักเสบ ยาปฏิชีวนะ ยาแก้ปวด หรือแม้แต่ยาสมุนไพร สามารถสะสมและทำลายเซลล์ไตได้หากใช้ไม่ถูกวิธี หรือใช้อย่างต่อเนื่องโดยไม่มีการตรวจติดตาม

ดังนั้น เพื่อป้องกัน โรคไต และอันตรายที่อาจตามมา ควรหลีกเลี่ยงการซื้อยากินเองโดยไม่จำเป็น และหันมา ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้งก่อนใช้ยา โดยเฉพาะในกรณีที่ต้องใช้ยาใช้ภายในหรือมียาเดิมที่ใช้อยู่แล้ว เพื่อให้มั่นใจว่าการใช้ยานั้นปลอดภัยต่อไตและสุขภาพโดยรวมในระยะยาว

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

This site uses cookies to offer you a better browsing experience. By browsing this website, you agree to our use of cookies.