การดูแลฟันและเหงือกให้แข็งแรงไม่ใช่เรื่องที่ทำเฉพาะเวลามีปัญหาเท่านั้น แต่ควรเป็นสิ่งที่ทุกคนให้ความสำคัญอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เด็กจนถึงวัยสูงอายุ ตรวจฟันตามช่วงวัย จึงกลายเป็นหัวใจหลักของการดูแลฟันในระยะยาว เพราะแต่ละช่วงอายุมีความต้องการในการดูแลและป้องกันปัญหาที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน
การตรวจ สุขภาพช่องปาก อย่างเหมาะสมในแต่ละช่วงวัยจะช่วยป้องกันโรคในช่องปากได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น ลดโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนที่อาจนำไปสู่การสูญเสียฟัน รวมถึงลดค่าใช้จ่ายด้านทันตกรรมในอนาคต
ตรวจฟันตามช่วงวัยคืออะไร
ตรวจฟันตามช่วงวัย คือแนวทางในการเข้ารับบริการทางทันตกรรมที่เน้นการดูแลและประเมินสุขภาพฟันและเหงือกอย่างเหมาะสมกับลักษณะของแต่ละช่วงอายุ ไม่ว่าจะเป็นฟันน้ำนม ฟันแท้ การจัดฟัน หรือแม้กระทั่งการดูแลฟันปลอมในผู้สูงอายุ แนวทางนี้ช่วยให้เราตรวจพบปัญหาได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ เช่น ฟันผุ เหงือกอักเสบ การสบฟันผิดปกติ หรือโรคในช่องปากอื่น ๆ ที่อาจไม่แสดงอาการในระยะแรก
การ ตรวจสุขภาพ ฟันอย่างเหมาะสมกับวัย ยังเป็นพื้นฐานของการมี สุขภาพช่องปาก ที่ดีในระยะยาว โดยเฉพาะในกลุ่มที่มีความเสี่ยง เช่น เด็กเล็ก วัยรุ่นที่จัดฟัน หรือผู้สูงอายุที่มีฟันหลุดหรือใส่ฟันปลอม
ประโยชน์ของการตรวจฟันตามช่วงวัย
-ค้นหาปัญหาในช่องปากได้ตั้งแต่ระยะแรก เช่น ฟันผุ หรือโรคเหงือก
-ตรวจฟันตามช่วงวัย ทำให้วางแผนการรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น จัดฟันในวัยรุ่น หรือฟันปลอมในผู้สูงอายุ
-ลดค่าใช้จ่ายในการรักษาในระยะยาว
-ส่งเสริมพฤติกรรมการดูแล สุขภาพช่องปาก อย่างเหมาะสม
-ตรวจพบความผิดปกติที่อาจเกี่ยวข้องกับโรคอื่น เช่น เบาหวาน มะเร็งช่องปาก
แนวทางการตรวจฟันตามช่วงวัย
วัยทารกและเด็กเล็ก (0–5 ปี)
ช่วงนี้เป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างนิสัยดูแลฟันที่ดี เด็กควรได้รับการตรวจฟันครั้งแรกเมื่อฟันซี่แรกเริ่มขึ้น หรือไม่เกินอายุ 1 ขวบ ตามคำแนะนำของกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
บริการแนะนำ
-เคลือบฟลูออไรด์เพื่อป้องกันฟันผุ
-ให้คำแนะนำผู้ปกครองเรื่องการแปรงฟันที่ถูกวิธี
-ประเมินพฤติกรรมเสี่ยง เช่น การดูดนิ้วหรือขวดนมก่อนนอน
-ตรวจสุขภาพฟันและเหงือกทุก 6 เดือน
-การปลูกฝังนิสัยแปรงฟันอย่างถูกวิธีตั้งแต่เด็กจะช่วยป้องกันฟันผุและโรคเหงือกได้ดีเมื่อเติบโต
วัยเรียนถึงวัยรุ่น (6–24 ปี)
วัยนี้เป็นช่วงที่ฟันแท้ขึ้นครบ มีการเปลี่ยนแปลงของโครงหน้า และเริ่มมีความเสี่ยงต่อฟันผุจากพฤติกรรมการกินของหวาน รวมถึงการจัดฟันที่อาจทำให้ทำความสะอาดยากขึ้น
บริการแนะนำ
-เคลือบหลุมร่องฟัน
-ตรวจแนวการสบฟันและวางแผนจัดฟันหากจำเป็น
-ขูดหินปูนและตรวจหาฟันคุด
-ตรวจสุขภาพช่องปากและให้คำแนะนำพฤติกรรมเสี่ยง เน้นให้ตระหนักถึงความสำคัญของการ ตรวจฟันตามช่วงวัย
ผู้ที่จัดฟันควร ตรวจฟันตามช่วงวัย อย่างน้อยทุก 6 เดือน เพราะฟันจะเคลื่อนตัวอย่างต่อเนื่อง การตรวจจะช่วยให้ทันตแพทย์ประเมินความคืบหน้าและป้องกันภาวะแทรกซ้อน เช่น ฟันผุใต้ลวดจัดฟันหรือเหงือกอักเสบ
วัยผู้ใหญ่ (25–59 ปี)
วัยทำงานมักละเลยการ ตรวจสุขภาพ ฟัน เนื่องจากไม่มีอาการและมีเวลาจำกัด แต่ปัญหาเช่นเหงือกอักเสบ กลิ่นปาก หรือฟันโยก มักเริ่มต้นในวัยนี้โดยไม่รู้ตัว สิ่งหนึ่งก็เกิดจาการละเลยการ ตรวจฟันตามช่วงวัย
บริการแนะนำ
-ขูดหินปูน ตรวจโรคเหงือกและรากฟัน
-ตรวจรอยโรคในช่องปาก เช่น รอยแดง รอยขาวที่อาจเป็นมะเร็ง
-วางแผนรักษาฟันผุแต่เนิ่น ๆ ก่อนลุกลามถึงโพรงประสาทฟัน
-ตรวจสุขภาพช่องปากโดยละเอียดอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง
การ ตรวจฟันตามช่วงวัย สำหรับผู้ใหญ่ควรทำอย่างต่อเนื่อง เพราะจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการรักษาระยะยาว เช่น การรักษารากฟันหรือการครอบฟันที่มีค่าใช้จ่ายสูง
วัยสูงอายุ (60 ปีขึ้นไป)
ช่วงอายุนี้พบปัญหาสูญเสียฟัน ฟันโยก เหงือกร่น และการใส่ฟันปลอมมากขึ้น การ ตรวจฟันตามช่วงวัย จึงมีบทบาทสำคัญในการดูแลคุณภาพชีวิต
บริการแนะนำ
-ตรวจความพอดีของฟันปลอม
-ตรวจหาสัญญาณโรคมะเร็งช่องปาก
-ประเมินสุขภาพฟันที่เหลืออยู่
-การดูแลฟันในผู้สูงอายุมีความสัมพันธ์กับสุขภาพกายโดยรวม เช่น การเคี้ยวอาหาร การย่อย และคุณภาพชีวิตประจำวัน
ตรวจฟันตามช่วงวัยช่วยลดภาระค่ารักษาทันตกรรมในอนาคต
หลายคนมักมาพบทันตแพทย์เมื่อมีอาการปวดฟันหรือปัญหาลุกลาม ซึ่งส่งผลให้ต้องเข้ารับการรักษาที่ซับซ้อนและมีค่าใช้จ่ายสูง เช่น รักษารากฟัน ถอนฟัน หรือทำรากเทียม ซึ่งล้วนเป็นสิ่งที่สามารถป้องกันได้ด้วยการ ตรวจฟันตามช่วงวัย
สิทธิบัตรทอง ตรวจฟันฟรีทุกช่วงวัย
ตามสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) ประชาชนสามารถเข้ารับบริการทันตกรรมเบื้องต้นได้ฟรี สามารถใช้สิทธิบัตรทองในสถานพยาบาลที่เข้าร่วมโครงการได้ทั่วประเทศทำให้การ ตรวจฟันตามช่วงวัย ไม่สิ้นเปลืองอีกต่อไป เช่น ขูดหินปูนเคลือบฟลูออไรด์ ถอนฟัน อุดฟันตรวจรอยโรคในช่องปาก
สรุป
การตรวจฟันตามช่วงวัย คือพื้นฐานของรอยยิ้มที่มั่นใจ ช่วยให้คุณดูแลฟันได้อย่างเหมาะสมตามอายุ ช่วยลดความเสี่ยงของโรคในช่องปาก และลดภาระการรักษาที่ซับซ้อนในอนาคต โดยเฉพาะหากทำควบคู่กับการดูแล สุขภาพช่องปาก อย่างถูกวิธี คุณจะสามารถมีฟันที่แข็งแรง ใช้งานได้ตลอดชีวิต และมีคุณภาพชีวิตที่ดีในทุกวัย