การตั้งครรภ์ เป็นช่วงเวลาที่พิเศษและสำคัญสำหรับผู้หญิง แต่ก็มาพร้อมกับความรับผิดชอบหลายอย่าง สิ่งที่คุณแม่มือใหม่ต้องทำหลังจากยืนยันผลด้วยวิธีตรวจการตั้งครรภ์เรียบร้อยแล้ว คือ การดูแลสุขภาพอย่างถูกต้องและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะในช่วง 3 เดือนแรก
สำหรับคุณแม่มือใหม่ท้องแรกไม่ต้องกังวลไปนะคะ บทความนี้ มีคำแนะนำเกี่ยวกับข้อควรระวังคนท้อง และสิ่งที่คนท้องต้องระวังมาฝาก โดยเนื้อหาจะครอบคลุมทั้งเรื่องทั่วไป อาหาร การออกกำลังกาย และการใช้ยาต่างๆ เพื่อช่วยให้คุณแม่และลูกน้อยมีสุขภาพที่ดีและปลอดภัยจนถึงวันคลอดอย่างแน่นอน
รวมข้อควรระวังคนท้อง
- สิ่งที่คนท้องต้องระวังหรือหลีกเลี่ยงอะไรบ้าง
- อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงสําหรับคนท้อง
- คนท้องไม่ควรออกกำลังกายแบบไหน
- ข้อควรระวังคนท้องเกี่ยวกับการใช้ยา
- สิ่งที่สามารถทำลายพัฒนาการทารกในครรภ์
- ปัจจัยที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการแท้งบุตร
สิ่งที่คนท้องต้องระวังหรือหลีกเลี่ยงมีอะไรบ้าง
งดดื่มแอลกอฮอล์
คุณแม่ตั้งครรภ์ไม่ควรดื่มแอลกอฮอล์ รวมไปถึงเครื่องดื่มหรือยาที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ เพราะนอกจากจะส่งผลเสียต่อสุขภาพของคุณแม่โดยตรงแล้ว ฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ยังมีผลต่อทารกในครรภ์ เช่น พัฒนาการของสมองและระบบประสาท และยังเพิ่มโอกาสในการแท้งอีกด้วย
งดสูบบุหรี่ ห้ามใช้สารเสพติด
สารพิษในบุหรี่ สารเสพติดทุกชนิด เป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์ และอาจส่งผลร้ายแรงต่อสุขภาพและพัฒนาการทารกในครรภ์ เช่น เพิ่มความเสี่ยงต่อการแท้งบุตร คลอดก่อนกำหนด และทำให้ทารกแรกเกิดมีน้ำหนักตัวน้อย
หลีกเลี่ยงสภาพแวดล้อมที่มีมลพิษ
มลพิษทางอากาศ ควันบุหรี่ ฝุ่น PM รังสีต่างๆ ล้วนส่งผลเสียต่อสุขภาพของคุณแม่ และพัฒนาการของลูกน้อย หากหลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆ คุณแม่ตั้งครรภ์ควรใส่อุปกรณ์ป้องกัน อย่างเช่น หน้ากากอนามัย ที่มีคุณภาพและได้มาตรฐาน
ไม่เครียด
สิ่งที่คนท้องต้องระวัง และเป็นเรื่องที่สำคัญมาก คือ ไม่เครียด! เพราะความเครียดจะทำให้ฮอร์โมนในร่างกายทำงานผิดปกติ ส่งผลต่อพัฒนาการทารกในครรภ์ มีโอกาสคลอดก่อนกำหนด และยังมีผลต่อเนื่องกับเด็กหลังคลอดอีกด้วย คุณแม่ควรหาวิธีผ่อนคลายความเครียด เช่น การนวด การฝึกโยคะ นั่งสมาธิ หรือการฟังเพลง เป็นต้น
หลีกเลี่ยงการยืนหรือเดินนานๆ ยกของหนัก
คุณแม่ตั้งครรภ์จะมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น การยืนหรือเดินนานๆ อาจทำให้เกิดอาการปวดขาและเท้าบวม เลือดไหลเวียนไม่ดี นอกจากนี้ คนท้องไม่ควรยกของหนัก จะทำให้ปวดหลัง และอาจทำให้มีอาการหน้ามืดได้
อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงสําหรับคนท้อง
เรื่องอาหารการกินของคุณแม่ตั้งครรภ์ถือเป็นเรื่องสำคัญมาก นอกจากการทานอาหารที่มีประโยชน์ได้สารอาหารครบถ้วนแล้ว ยังมีอาหารบางชนิดที่กำหนดเป็นข้อควรระวังคนท้องด้วย ได้แก่
- อาหารดิบหรือปรุงไม่สุก : เช่น ไข่ดิบ เนื้อสัตว์ดิบ นมหรือผลิตภัณฑ์นมที่ไม่ได้พลาสเจอร์ไรส์ เพื่อทำลายเชื้อโรค เนื่องจากอาหารดิบๆสุกๆ อาจมีเชื้อโรค เชื้อแบคทีเรีย หรือพวกปรสิต เพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อที่เป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์
- อาหารหมักดอง อาหารรสจัด : เช่น ปลาร้า แหนม เพราะมีโซเดียมสูง ทำให้คุณแม่ความดันโลหิตสูงได้
- อาหารแปรรูป : เช่น ไส้กรอก แฮม เบคอน เพราะมีสารกันบูด ไนเตรต ซึ่งมีผลต่อการขนส่งออกซิเจนระหว่างแม่กับลูกน้อย
- อาหารทะเลบางชนิด : เช่น ปลาทูน่า ปลาอินทรีย์ เพราะอาจมีสารปรอทปนเปื้อน ส่งผลเสียต่อพัฒนาการทารกในครรภ์ โดยเฉพาะทางสมอง
- เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน : เช่น กาแฟ ชา น้ำอัดลม ช็อกโกแลต และยาบางชนิด เพราะฤทธิ์ของคาเฟอีนจะทำให้ความดันเลือดสูงขึ้น และทำให้ทารกหัวใจเต้นเร็วขึ้น ซึ่งจะเพิ่มความเสี่ยงและอันตรายต่อทารกในครรภ์
คนท้องไม่ควรออกกำลังกายแบบไหน
ข้อควรระวังคนท้อง คือ ควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายที่หักโหมหรือเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายต่อทารกในครรภ์ ตัวอย่างการออกกำลังกายที่คนท้องควรหลีกเลี่ยง ได้แก่
- กีฬาที่มีแรงกระแทกหรือปะทะ : เช่น ฟุตบอล บาสเกตบอล วอลเลย์บอล อาจทำให้เกิดการบาดเจ็บต่อทารกในครรภ์
- กีฬาที่มีความเสี่ยงสูง : เช่น ขี่ม้า ปั่นจักรยานขึ้นเขา เล่นสกี เสี่ยงทำให้เกิดอุบัติเหตุแท้งได้
- การยกน้ำหนักที่หนักเกินไป : อาจทำให้เกิดอาการปวดหลัง และเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนในการตั้งครรภ์
- การออกกำลังกายที่หักโหม หรืออากาศร้อน : เพราะอาจทำให้ร่างกายมีอุณหภูมิสูงขึ้น ร่างกายสูญเสียน้ำ จนคุณแม่มีอาการหน้ามืด เวียนหัว หรือช็อคจากภาวะร่างกายขาดน้ำ
- การฝึกโยคะบางท่า : ท่าโยคะบางท่า เช่น ท่าที่ต้องกลับหัว คว่ำตัว ท่าที่ต้องยืนขาเดียว เสี่ยงต่อการล้ม เป็นอันตรายต่อเด็กในครรภ์
ข้อควรระวังคนท้องเกี่ยวกับการใช้ยา
สิ่งที่คนท้องต้องระวัง และเป็นอันตรายมากๆ คือ ไม่ควรซื้อยามากินเองเด็ดขาด แม้จะเป็นยาที่วางขายทั่วไป เพราะยาบางชนิดมีผลต่อการเจริญเติบโตของทารก และอาจเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์ เสี่ยงต่อการแท้งลูกได้ โดยเฉพาะกลุ่มยาฆ่าเชื้อ ยาแก้อักเสบ ยาระบบทางเดินอาหาร ยาสเตอรอยด์ ยาแก้แพ้ ยาต้านการแข็งตัวของเลือด ยาขับปัสสาวะ เป็นต้น ดังนั้น ก่อนรับประทานยาใดๆ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้ง
สิ่งที่สามารถทำลายพัฒนาการทารกในครรภ์
พัฒนาการทารกในครรภ์ จะเติบโตอย่างปกติและสมบูรณ์ได้นั้น ขึ้นอยู่กับสิ่งที่คุณแม่ปฏิบัติและสิ่งแวดล้อมด้วย ยกตัวอย่างสิ่งที่คนท้องต้องระวัง ได้แก่
- การสูบบุหรี่ : สารเคมีในควันบุหรี่ ส่งผลต่อการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ ทารกอาจคลอดก่อนกำหนด น้ำหนักตัวน้อย เสี่ยงต่อการเสียชีวิตในครรภ์ หรือมีปัญหาพัฒนาการล่าช้า
- การดื่มแอลกอฮอล์ : ส่งผลต่อระบบประสาท ทารกอาจมีภาวะ FAS (Fetal Alcohol Syndrome) พิการทางสติปัญญา ใบหน้าผิดปกติ เป็นต้น
- การใช้สารเสพติด : ส่งผลต่อระบบประสาท ทารกอาจมีปัญหาพัฒนาการล่าช้า พิการทางสติปัญญา พิการทางรูปร่าง
- การทานยาบางชนิดโดยไม่ปรึกษาแพทย์ : ยาบางชนิดอาจเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนทานยา
- การติดเชื้อบางชนิด : เช่น โรคหัดเยอรมัน โรคซิฟิลิส โรค toxoplasmosis ติดเชื้อจากแมว ส่งผลต่อทารกในครรภ์ อาจแท้ง คลอดก่อนกำหนด ทารกพิการ เสียชีวิตในครรภ์
- ความเครียด : ส่งผลต่อทารกในครรภ์ อาจคลอดก่อนกำหนด น้ำหนักตัวน้อย ทารกมีปัญหาพัฒนาการล่าช้า
- ภาวะโภชนาการไม่เพียงพอ : ทารกอาจขาดสารอาหาร ส่งผลต่อการเจริญเติบโต มีพัฒนาการล่าช้า
หลักๆ แล้ว ข้อควรระวังคนท้อง คือเรื่องการดูแลร่างกายให้แข็งแรง ได้รับสารอาหารเพียงพอ และดูแลสุขภาพจิตใจให้ดี เพราะสองสิ่งนี้จะช่วยเสริมสร้างพัฒนาการตามวัย และลดความเสี่ยงในการแท้งบุตรได้
ปัจจัยที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการแท้งบุตร
ปัจจัยที่ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการแท้งบุตรและเป็นสิ่งที่คนท้องต้องระวัง แบ่งเป็น 2 ประเภทหลักๆ ดังนี้
ปัจจัยที่เกิดจากตัวคุณแม่
คุณแม่ตั้งครรภ์ที่อายุน้อยกว่า 20 ปี หรือมากกว่า 35 ปี มีความเสี่ยงต่อการแท้งบุตรมากกว่าช่วงอายุอื่น สาเหตุหลักๆ มาจากความผิดปกติของโครโมโซมในตัวอ่อนซึ่งพบได้บ่อยในคุณแม่ที่มีอายุมาก และหากมีประวัติการแท้งลูกมาก่อน ก็จะมีความเสี่ยงในการแท้งบุตรซ้ำได้อีก
หากคุณแม่มีปัญหาสุขภาพอื่นๆ มีโรคประจำตัวบางชนิด เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคไต โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง มีภาวะติดเชื้อบางชนิด มีปัญหาเกี่ยวกับมดลูก เนื้องอกในมดลูก รวมไปถึงปัญหาที่เกิดจากการดูแลตนเองขณะตั้งครรภ์ เช่น ภาวะโภชนาการไม่เพียงพอ เครียด ซึมเศร้า ก็จะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงในการแท้งลูกได้มากขึ้น
นอกจากนี้ พฤติกรรมระหว่างตั้งครรภ์หลายอย่างก็มีผลทำให้แท้งบุตรได้ เช่น สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ ใช้สารเสพติด เล่นกีฬาหรือออกกำลังกายที่เสี่ยง หรือแม้แต่การทานยาบางชนิดโดยไม่ปรึกษาแพทย์
ปัจจัยที่เกิดจากสิ่งแวดล้อม
มลพิษทางอากาศ ฝุ่น PM2.5 ที่ส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจของทารกในครรภ์ รังสีอันตราย รังสีจากกัมมันตรังสี สารตะกั่ว สารปรอท ที่ส่งผลต่อระบบประสาท จนอาจทำให้ทารกพิการ เสียชีวิตในครรภ์ ดังนั้น หากคุณแม่จำเป็นต้องออกไปทำงานนอกบ้านที่เสี่ยงสัมผัสกับสิ่งเหล่านี้ ควรหลีกเลี่ยงให้มากที่สุดและสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันทุกครั้ง
บทสรุป
หากคุณแม่ปฏิบัติตามข้อควรระวังคนท้องและสิ่งที่คนท้องต้องระวังเหล่านี้ จะช่วยลดความเสี่ยงต่อภาวะแท้งบุตร ทารกพิการ ภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ ระหว่างตั้งครรภ์ได้ และยังช่วยให้ทั้งคุณแม่และลูกน้อยมีสุขภาพที่ดีและมีความสุขได้อย่างแน่นอน
หากสาวๆ คนไหนสงสัยว่าตัวเองกำลังตั้งครรภ์อยู่หรือเปล่า สามารถใช้วิธีตรวจการตั้งครรภ์เบื้องต้น ด้วยชุดตรวจการตั้งครรภ์แบบใช้ปัสสาวะ ซึ่งหาซื้อได้ตามร้านขายยาและสามารถตรวจได้เองที่บ้าน รู้ผลรวดเร็ว จะได้เริ่มดูแลตนเองให้ถูกต้องตั้งแต่อายุครรภ์น้อยๆ เพื่อลดความเสี่ยงจากการแท้ง และเสริมสร้างพัฒนาการทารกในครรภ์อย่างถูกต้อง
เอกสารอ้างอิง
- 10 ข้อห้ามที่ “คนท้อง” ต้องรู้, พญ. ภัทรพร ภู่ทอง
- 17 อาหารที่คนท้องห้ามกิน & คนท้องห้ามกินอะไรบ้าง ??, Medthai
- โยคะ…การออกกำลังกายที่เหมาะสมสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์, พญ. ธาริณี ลำลึก
- แม่ท้องกับการ ”แท้ง”, นพ. เทวินทร์ เดชเทวพร
บทความที่น่าสนใจ
- วิธีตรวจหาการตั้งครรภ์ ตรวจวิธีไหนแม่นยำที่สุด มาหาคำตอบไปพร้อมกัน!
- ที่ตรวจครรภ์ขึ้น 2 ขีด แต่ไม่ท้อง เกิดจากสาเหตุใด