ความเสี่ยงในการได้รับเชื้อเอชไอวีมีได้จากหลายกรณี ทั้งการมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ป้องกันให้ดี การใช้เข็มฉีดยาร่วมกับคนอื่น หรือการถูกกระทำชำเรา ในกรณีที่หลังจากผ่านความเสี่ยงต่าง ๆ มา และสงสัยว่าอาจจะได้รับเชื้อเอชไอวีเข้าสู่ร่างกาย จริง ๆ แล้วมีวิธีที่สามารถช่วยป้องกันได้หลังจากการรับเชื้อ นั่นคือการรีบเข้ารับการตรวจและซื้อยาเป็ปมาทานทันที อย่างไรก็ตามยาเป็ปจะได้ผลก็ต่อเมื่อรับประทานอย่างถูกต้อง
ไขข้อสงสัย เภสัชกรร้านขายยาจ่ายเป็ปให้ได้ไหม
ยาเป็ป หรือ Post-Exposure Prophylaxis (PEP) เป็นยาที่ต้านเชื้อเอชไอวีหลังทราบว่าตัวเองเสี่ยงสัมผัสเชื้อไปแล้ว หลายคนคิดว่า เราสามารถซื้อยาเป็ปได้ตามร้านขายยาทั่วไป แต่จริง ๆ แล้วไม่ใช่ เพราะก่อนที่จะใช้ยาเป็ปได้ ผู้ที่มีความเสี่ยงจำเป็นที่จะต้องเข้ารับการประเมินร่างกายจากแพทย์ เช่น ต้องตรวจหาเอชไอวี ตรวจค่าการทำงานของตับ ตรวจไวรัสตับอักเสบ ฯลฯ ทั้งนี้ก็เพราะยาเป็ปจัดเป็นยาที่มีผลข้างเคียงสูง มีมากกว่า 1 สูตร และจะได้ผลก็ต่อเมื่อรับประทานอย่างถูกวิธีและสม่ำเสมอตามคำแนะนำของแพทย์เท่านั้น
สำหรับสถานที่ ที่สามารถหายาเป็ปได้นั้นจะเป็นที่โรงพยาบาล รวมถึงคลินิกเอกชนซึ่งแพทย์ที่ประจำอยู่มีใบประกอบโรคศิลป์ เพราะแพทย์จะต้องมีหน้าที่ประเมินความเสี่ยงจากโรคประจำตัว หรืออาการเจ็บป่วยบางอย่างที่ผู้ป่วยมี ซึ่งบางกรณีอาจจะไปลดประสิทธิภาพการทำงานของยาเป็ปลงได้
สำหรับผู้ที่สงสัยเรื่องราคายาเป็ป ส่วนนี้ก็ต้องแล้วแต่ตัวยาที่ได้รับจ่าย และลักษณะของสถานพยาบาลที่ให้บริการ โดยช่วงราคาจะอยู่ที่ 1,500 – 2,000 บาท ไม่รวมค่าตรวจเอชไอวีและร่างกายเบื้องต้นก่อนรับยา ซึ่งถือว่าการซื้อยาเป็ป ราคานี้ คุ้มค่ากว่าการรักษาตัวเมื่อเกิดติดเชื้อขึ้นมาแล้ว
วิธีทานยาเป็ปให้ได้ผลดี ต้องทำอย่างไร
เมื่อตัดสินใจจะไปซื้อยาเป็ปแล้ว ก็ควรเข้าใจวิธีการทานให้มีประสิทธิภาพในการป้องกันเอชไอวีให้ได้เกือบ 100% โดยต้องปฏิบัติตามนี้
- เข้ารับการตรวจร่างกายให้เร็วที่สุดหลังสัมผัสเชื้อ เพื่อขอรับยาเป็ปมาทานภายใน 72 ชั่วโมง ยิ่งเร็วยิ่งดี
- ทานยาต่อเนื่องวันละ 1 เม็ดทุกวัน เป็นเวลา 28 วัน โดยต้องทานในช่วงเวลาเดียวกันของแต่ละวันด้วย
- เมื่อทานยาครบ ต้องกลับมาพบแพทย์เพื่อตรวจหาเชื้อเอชไอวี และกลับมาตรวจซ้ำอีกทุก ๆ 3 เดือน เพื่อให้มั่นใจได้ว่ายาเป็ปทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ
การทานยาเป็ปจะใช้แค่ในกรณีฉุกเฉิน ไม่สามารถทานตลอดไปได้ หากต้องการทานเพื่อป้องกันก่อนที่จะเกิดความเสี่ยงอีก แนะนำให้ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับการรับยาเพร็บ ซึ่งเป็นยาป้องกันเชื้อเอชไอวีอีกหนึ่งตัวที่ใช้รับประทานประจำ เพื่อป้องกันก่อนการได้รับเชื้อ
การเดินเข้าสถานพยาบาลเพื่อซื้อยาเป็ป ผู้เข้าใช้บริการไม่ต้องรู้สึกประหม่าหรือเขินอายในการเข้ารับบริการ เพราะหลายแห่งเดี๋ยวนี้ก็มีการให้บริการแบบคลินิกนิรนาม หรือแบบที่ไม่ต้องเปิดเผยตัวตน อาจกล่าวได้ว่า สังคมของเราเปิดกว้างและเข้าใจผู้มีความเสี่ยงกว่าเดิมมาก อย่างไรก็ตาม เมื่อได้รับการจ่ายยาไปแล้ว การระวังตัวและรู้จักป้องกันให้รัดกุมมากขึ้นเมื่อต้องมีเพศสัมพันธ์ครั้งต่อไปก็ยังจำเป็น เพราะอย่าลืมว่า ยาเป็ปไม่ได้มีสรรพคุณช่วยยับยั้งการแพร่ของโรคติดต่ออื่น ๆ ได้
บทความที่น่าสนใจ