อาการคนท้อง 1 สัปดาห์ มักไม่ชัดเจนนัก เนื่องจากอาการส่วนใหญ่ เกิดจากการที่ร่างกายกำลังปรับตัวจากการปฏิสนธิ อย่างไรก็ตาม ยังมีสัญญาณเตือนบางอย่างที่อาจบ่งบอกว่าคุณกำลังตั้งครรภ์ และยังเป็นอาการเตือนคนเริ่มท้อง รีบสังเกตุอาการ ก่อนจะเป็นคนท้องไม่รู้ตัว โดยสามารถสังเกตุอาการเบื้องต้นได้ดังนี้
ขาดประจำเดือน
สัญญาณเตือนที่ชัดเจนที่สุดว่ากำลังตั้งครรภ์ก็คือการขาดประจำเดือน โดยทั่วไปแล้ว ประจำเดือนจะขาดหลังจากการปฏิสนธิประมาณ 14 วัน และมีเลือดออกกระปริกระปรอย โดยเลือดจะเป็นสีเข้ม ๆ เกิดจากการฝังตัวของเซลล์ที่ผ่านการปฎิสนธิ
ทั้งนี้การขาดประจำเดือน ไม่ใช่ว่าคุณผู้หญิงจะตั้งครรภ์เสมอไป เพราะมันมีหลายสาเหตุที่ทำให้ขาดประจำเดือนได้ ไม่ว่าจะเป็นการผิดปกติของฮอร์โมนเพศหญิง ผลข้างเคียงของยาบางชนิดที่คุณผู้หญิงได้รับประทาน ความผิดปกติของมดลูก รวมไปถึงความเครียดก็เกี่ยวข้องกับประจำเดือนโดยตรง
ดังนั้นแล้ว ถ้าหากไม่แน่ว่า ตัวเองกำลังตั้งครรภ์หรือไม่ ให้สังเกตุอาการอื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น ระหว่างที่ขาดประจำเดือนไป มีอาการปวดท้องหน่วง ๆ ไหม หรือท้องน้อยได้ป่องขึ้นหรือไม่ รวมไปถึงอาการประจำเดือนได้คาดเคลื่อนไปจากเดิมมากน้อยแค่ไหน ถึงอย่างนั้น วิธีที่จะให้คุณผู้หญิงสบายใจมากที่สุด ก็คือการใช้เครื่องมือตรวจครรภ์ หรือเข้าพบแพทย์จะเป็นวิธีที่ดีสุด
คลื่นไส้ อาเจียน
อาการคลื่นไส้ อาเจียนมักเกิดขึ้นในช่วงไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์ ซึ่งมักเกิดขึ้นในตอนเช้าหรือหลังรับประทานอาหาร โดยคุณผู้หญิงหลายคนจะเรียกอาการแบบนี้ว่า “การแพ้ท้อง” ซึ่งอาการแพ้ท้องจะมาในช่วง 1 เดือนแรก (ไตรมาศแรกของการตั้งครรภ์)
ทั้งนี้อาการดังกล่าว ไม่ได้เกิดขึ้นกับคุณแม่ทุกคน บางคนอาจจะไม่มีอาการแพ้ท้องตลอดช่วงตั้งครรภ์เลยก็มี บางคนไปมีอาการแพ้ท้องในช่วงตั้งครรภ์ไตรมาศสุดท้าย แบบนี้ก็มีเช่นกัน
แต่โดยรวมแล้ว การคลื่นไส้ อาเจียน ก็เป็นอาการคนท้องยอดฮิตที่ไม่ควรมองข้ามเด็ดขาด ถ้าหากว่าคุณผู้หญิงท่านใด ที่ขาดประจำเดือนมาระยะหนึ่ง และมีอาการคลื่นไส้ตลอดเวลา ควรเข้าตรวจครรภ์โดยเร็วที่สุด เพราะนี่คืออาการเตือน คนเริ่มท้อง ที่เห็นชัดมาก
ปัสสาวะบ่อย
ในช่วงตั้งครรภ์ ร่างกายจะผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) และโปรเจสเตอโรน (Progesterone) มากขึ้น ซึ่งทำให้ไตทำงานหนักขึ้นและขับปัสสาวะออกมามากกว่าปกติ คุณผู้หญิงหลายท่านอาจยังไม่ทราบว่านี่คืออาการคนท้องเบื้องต้น เนื่องจากคิดว่าอาการดังกล่าวมาจากการดื่มน้ำในจำนวนมาก
ทั้งนี้การปัสสาวะบ่อย เกิดจากการขยายตัวของมดลูกในอุ้งเชิงกราน ที่ไปเสียดกับกระเพาะปัสสาวะของคุณผู้หญิง ทำให้เกิดอาการปวดปัสสาวะ โดยอาการดังกล่าวจะค่อย ๆ เริ่มดีขึ้นเมื่อช่วงที่มดลูกขยายเข้าไปในท้อง
ฃเมื่อปัสสาวะบ่อย สิ่งที่คุณผู้หญิงควรทำก็คือการดื่มน้ำบ่อย ๆ เพื่อเอาน้ำเข้าไปแทนของเสียที่ถ่ายเทไป ไม่ควรงดน้ำเด็ดขาด เพราะอาจจะเกิดอาการมึนหัวง่าย และอาจส่งผลต่อทารกในท้องได้
มีอาการเหนื่อยล้าบ่อย
ในช่วงตั้งครรภ์ ร่างกายต้องการพลังงานมากขึ้นเพื่อรองรับการเจริญเติบโตของทารก ทำให้คุณผู้หญิงรู้สึกเหนื่อยล้าได้ง่ายขึ้น ซึ่งเกิดจากการหลั่งของฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน ส่งผลให้น้ำตาลในเลือดลดลง ทำให้รู้สึกง่วงนอน มีอาการไมเกรน เป็นอาการของคนท้องระยะแรก ที่คุณผู้หญิงต้องเข้าใจ เพราะระบบในร่างกาย รวมไปถึงอวัยวะต่าง ๆ จะทำงานหนักขึ้นเพื่อรองรับการเจริญเติบโตของทารกในท้อง
วิธีแก้ที่ดีสุด คือคุณผู้หญิงควรนอนพักผ่อนให้เยอะ ๆ ลดกิจกรรมหนัก ๆ ให้ร่างกายได้ปรับตัวกับทารกในท้องไปสักระยะ หลังจากนั้นอาการก็จะดีขึ้นตามลำดับ
หน้าอกคัดตึง
ในช่วงตั้งครรภ์ ร่างกายจะผลิตฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนมากขึ้น ซึ่งทำให้หน้าอกขยายใหญ่ขึ้นและคัดตึง ทั้งนี้ยังมีอาการเสียวจี๊ดตรงหัวนม มีอาการคล้าย ๆ กับการปวดประจำเดือน โดยอาการนี้จะเกิดขึ้นตอนที่ประจำเดือนขาด 1-2 สัปดาห์
โดยอาการตึงคัดเต้านม จะเป็นอาการคนท้องที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของเต้านม เนื่องจากการปรับสภาพอย่างรวดเร็วของต่อมน้ำนม ทำให้เกิดอาการดังกล่าวขึ้นมา คุณผู้หญิงจะมีอาการ 2-3 เดือนแรกชองการตั้งครรภ์ จากนั้นก็จะค่อย ๆ เบาบางลง
หากมีอาการใด ๆ เหล่านี้ ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาการตั้งครรภ์อย่างแน่ชัด เพราะมันคืออาการของคนท้องโดยสมบูรณ์ และปรับเปลี่ยนกิจวัตรประจำวันให้สอดคล้องไปกับการดูแลตัวเองในช่วงตั้งครรภ์
ทั้งนี้ หากว่าคุณผู้หญิงยังไม่อยากไปตรวจครรภ์ที่โรงพยาบาล ก็สามารถใช้วิธี ตรวจครรภ์ด้วยตัวเอง เบื้องต้นได้เพื่อให้ทราบถึงผลการตรวจ ก่อนไปยืนยันการตั้งครรภ์กับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ