การถูกมีดหรือของมีคมบาด เป็นอุบัติเหตุเล็กน้อยที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน แต่ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุที่เล็กน้อยเพียงใดก็ไม่ควรประมาท เนื่องจากร่างกายที่มีบาดแผลอย่างไรก็มีโอกาสเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้เสมอ อีกทั้งมีดยังเป็นอุปกรณ์ทำครัวที่ปนเปื้อนเศษอาหารอยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่ควรมองข้ามแผลมีดบาดขนาดเล็ก ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำในการล้างแผลและดูแลรักษาแผลอย่างถูกต้อง จนกว่าแผลจะหายสนิทดี
สิ่งที่ควรทำทันทีหลังมีดบาด
เมื่อถูกมีดบาดแล้ว สิ่งที่ควรทำทันทีก่อนใช้มืออีกข้างหนึ่งทำความสะอาดแผลคือล้างมือข้างที่ยังไม่โดนบาดก่อน หากเป็นไปได้อาจใช้ถุงมือแพทย์แบบใช้แล้วทิ้งสวมมือข้างที่ยังไม่ถูกบาดไว้ก่อน จากนั้นล้างแผลด้วยการราดน้ำสะอาด ใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำสบู่ทำความสะอาดรอบ ๆ แผลโดยไม่โดนบาดแผลโดยตรง ล้างน้ำอีกครั้งแล้วใช้ผ้าสะอาดที่แห้งซับแผลให้แห้งสนิท ไม่ควรใช้แอลกอฮอล์หรือไอโอดีน ในกรณีที่มีสิ่งแปลกปลอมเอาออกจากแผลได้ยาก เช่น เศษอาหาร หรือในกรณีที่มีดบาดลึกจนเลือดทะลักหรือเลือดพุ่ง ควรไปสถานพยาบาลใกล้บ้านให้ช่วยทำแผลเพื่อความปลอดภัย เนื่องจากมีดอาจบาดลึกไปถึงชั้นไขมันและกล้ามเนื้อจึงต้องใช้วิธีเย็บแผล
หากเป็นแผลมีดบาดที่ไม่ลึกมากสามารถทำแผลเองได้เลย ใช้ผ้าสะอาดหรือผ้าก๊อซพันแผลเพื่อห้ามเลือด เมื่อเลือดหยุดไหลดีแล้วให้ปิดพันแผลด้วยปลาสเตอร์กันน้ำ หากมีอาการปวดแผลอาจทานยาแก้ปวดเพื่อช่วยบรรเทา แต่ไม่ควรกินยาแอสไพรินเนื่องจากตัวยาอาจจะไปเจือจางเลือดจนทำให้แผลเลือดออกมากกว่าเดิม
การดูแลรักษาแผลอย่างถูกต้อง
จนกว่าแผลมีดบาดจะเริ่มตกสะเก็ด ให้เปลี่ยนปลาสเตอร์หรือผ้าพันแผลทุกวันวันละหนึ่งครั้ง หรือทุกครั้งที่ผ้าพันแผลสกปรกหรือเปียกน้ำ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการอับชื้นและป้องกันไม่ให้แผลติดเชื้อ ในกรณีที่แผลติดเชื้อจะมีอาการบวมแดง มีหนอง ร่างกายมีไข้ขึ้นสูง ให้สันนิษฐานได้เลยว่าเป็นอาการที่เกิดจากแผลติดเชื้อ ควรรีบไปพบแพทย์ทันที หรือถ้ายังไม่มีอาการติดเชื้อแต่ยังไม่เคยฉีดวัคซีนป้องกันบาดทะยักเลย อาจปรึกษาแพทย์ให้ช่วยฉีดวัคซีนป้องกันบาดทะยักได้
นอกจากนี้ หากแผลมีดบาดยังไม่หายสนิทดีอาจจะต้องระวังพฤติกรรมอื่น ๆ ในชีวิตประจำวัน เพื่อลดโอกาสการเสี่ยงติดเชื้อได้ เช่น การสัมผัสสัตว์เลี้ยงด้วยมือข้างที่ถูกมีดบาด การสังเกตปลาสเตอร์หรือผ้าพันแผลก่อนอาบน้ำ การเลือกรับประทานอาหารที่ช่วยให้แผลสมานตัวได้ดีขึ้น เป็นต้น การดูแลเอาใจใส่บาดแผลที่แม้จะเป็นบาดแผลเล็กน้อย จึงถือเป็นการป้องกันตัวไม่ให้เกิดอาการร้ายแรงที่ไม่คาดฝันขึ้นในอนาคตได้