อาการแบบไหนที่แสดงว่าเรากำลังปวดท้องไส้ติ่ง

อาการ ‘ปวดท้อง’ นั้นมาได้จากหลากหลายสาเหตุ หลายปัจจัย เช่น ท้องอืด ท้องเสีย อาหารไม่ย่อย เป็นต้น เมื่อป่วยแล้วก็มีอาการแตกต่างกัน ทั้งการปวดภายในท้องเป็นพัก ๆ การปวดในท้องติดต่อกันนาน ๆ มีลมในกระเพาะมาก มีอาการถ่ายเหลว เป็นต้น แต่มีอาการปวดท้องชนิดหนึ่งที่ค่อนข้างอันตรายนั่นก็คือการปวดท้องไส้ติ่ง ส่วนจะรู้ได้อย่างไร รู้แล้วมีวิธีการรักษาอย่างไรบ้าง บทความนี้เรารวบรวมมาให้แล้ว

อาการที่มักพบได้เมื่อคุณกำลังปวดท้องไส้ติ่ง

ผู้ที่ไม่เคยป่วยเป็นโรคนี้ แต่สงสัยว่าอาการของ ไส้ติ่งอักเสบ เป็นอย่างไร สามารถสังเกตได้จากอาการอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นนอกเหนือจากการปวดท้อง ดังนี้

ปวดท้องในบริเวณที่ระบุไม่ได้

การปวดท้อง เป็นอาการป่วยที่สามารถระบุโรคที่ป่วยคร่าว ๆ ได้ หากรู้ว่าปวดท้องบริเวณใด แต่หากว่าคุณไม่สามารถระบุได้ว่าปวดท้องบริเวณใด คุณอาจมีอาการปวดหรือการอักเสบของไส้ติ่งได้ เพราะเมื่อเป็นโรคนี้ มักปวดท้องทั่วบริเวณ อีกทั้งยังเป็นเวลาค่อนข้างนาน หรือเจ็บมากขึ้นเรื่อย ๆ ด้วย

ปวดท้องบริเวณด้านขวา ช่วงล่าง

หากคุณมีอาการแบบนี้ เดาไว้ก่อนเลยว่าตัวคุณเองอาจมีอาการ ปวดท้องไส้ติ่ง เพราะผู้คนส่วนมากมักจะเกิดอาการนี้ ก่อนที่จะเข้ารับการรักษาจากแพทย์ในโรงพยาบาล เพราะบริเวณส่วนปลายของลำไส้เรานั้น จะอยู่บริเวณด้านขวาของท้อง หากปวดบริเวณนั้นนานระยะหนึ่ง แล้วมีทีท่าว่าจะแรงมากขึ้น ไม่ควรนิ่งนอนใจที่จะรีบรับการรักษาให้เร็วที่สุด

คลื่นไส้ อาเจียน

อาการปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน ก็เป็นอีกหนึ่งอาการที่บ่งชี้ได้ว่าคุณอาจกำลังปวดท้องไส้ติ่ง โดยอาจมีเป็นระยะ ๆ เป็นแล้วอาการไม่ดีขึ้น โดยเป็นร่วมกับอาการปวดท้องอย่างมากในบริเวณที่กล่าวไปข้างต้น หากมีอาการแบบนี้ควรรีบเข้ารับการตรวจวินิจฉัยให้เร็วที่สุด

ปัสสาวะขัด ปัสสาวะบ่อยขึ้น

นอกจากนี้ อาการที่คุณไม่ควรมองข้าม ถึงแม้ว่าผู้ที่ป่วยด้วยโรคเหล่านี้จะไม่ค่อยมีอาการนี้มากนัก แต่บางรายอาจมีอาการเกี่ยวกับปัสสาวะมาเกี่ยวข้องด้วย ซึ่งควรระมัดระวัง เพราะบางคนอาจจะคิดว่าเป็นเพียงแค่การปวดปัสสาวะธรรมดา ๆ หากปัสสาวะบ่อยผิดปกติ หรือว่าปัสสาวะขัด ติดต่อกัน ควรรีบไปพบแพทย์ก่อนอาการจะลุกลาม

ข้อดีและข้อเสียของการ ผ่าตัดไส้ติ่ง

การรักษาโรค ไส้ติ่งอักเสบ นั้น ทางการแพทย์จะรักษาได้ด้วยวิธีเดียว ก็คือ ‘การผ่าตัด’ เพื่อจะจะนำเอาไส้ติ่งบริเวณที่อักเสบออกจากร่างกาย โดยวิธีการผ่าตัดที่นิยมใช้ คือ แบบเปิด และ แบบส่องกล้อง ซึ่งก็มีทั้งข้อดี – ข้อเสียแตกต่างกันไปดังนี้

ผ่าตัดแบบเปิด

ข้อดี

– สามารถเข้าถึงบริเวณที่อักเสบได้เร็วกว่า

การผ่าตัดเมื่อ ปวดท้องไส้ติ่ง ในลักษณะนี้ แพทย์จะผ่าเป็นแผลเปิดขนาดค่อนข้างใหญ่ เพื่อให้พบว่าอาการอักเสบนั้นอยู่ที่บริเวณไหนของช่องท้อง จากนั้นจึงนำเอาไส้ติ่งหรือลำไส้บริเวณนั้นออกมา เป็นการนำเอาก้อนเนื้อที่ติดเชื้อทิ้งไป

– เหมาะสำหรับคนที่มีอาการรุนแรง

คนที่ ปวดท้องไส้ติ่ง อย่างรุนแรง จะเหมาะกับการ ผ่าตัดไส้ติ่ง เพราะสามารถช่วยให้เห็นการบาดเจ็บของลำไส้ได้อย่างชัดเจน ไม่ให้ลำไส้ได้รับผลกระทบหรือบาดเจ็บอันตรายรุนแรงยิ่งขึ้น โดยตัดส่วนที่เสียเพื่อหยุดการติดเชื้อทั้งหมด

ข้อเสีย

– บาดแผลหลังผ่าตัดมีขนาดค่อนข้างใหญ่

– ใช้ระยะเวลาพักฟื้นค่อนข้างนาน

ผ่าตัดแบบส่องกล้อง

ข้อดี

– ผ่าตัดแล้วเกิดแผลขนาดเล็ก ไม่เจ็บมาก

การรักษาอาการ ปวดท้องไส้ติ่ง โดยการส่องกล้อง เป็นการผ่าตัดที่ทำให้เกิดแผลขนาดเล็ก เนื่องจาก ตัวกล้องมีขนาดเล็ก นำเข้าไปเพื่อตรวจสอบภายในลำไส้ ว่าบริเวณใดที่มีการติดเชื้อ จะได้รักษาทันท่วงที นอกจากนี้ แผลที่ได้หลังการรักษานั้นก็ไม่ส่งผลกระทบกับชีวิตประจำวันอีกด้วย

– เหมาะกับคนที่มีอาการไม่รุนแรงมากนัก

ข้อเสีย

– ค่าใช้จ่ายในการรักษาค่อนข้างสูง

สรุป

การ ปวดท้องไส้ติ่ง ถือเป็นอาการป่วยที่ส่งผลต่อระบบขับถ่าย รวมถึงระบบภายในช่องท้อง โดยถึงแม้จะยังเป็นโรคที่ป้องกันไม่ได้ 100% แต่เราสามารถที่จะเสริมความแข็งแรงของร่างกาย รวมถึงระบบลำไส้ ด้วยการหมั่นทานอาหารที่มีใยอาหารจำนวนมาก และดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อลดความเสี่ยงต่อภาวะไส้ติ่งอักเสบรวมถึงโรคอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับระบบทางเดินอาหารด้วย

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

This site uses cookies to offer you a better browsing experience. By browsing this website, you agree to our use of cookies.