ในชีวิตประจำวัน การใช้ยา ถือเป็นเรื่องสำคัญ ทั้งการเลือกใช้ การเก็บรักษา รวมถึงการทำความเข้าใจประเภทของยา เช่น ยาใช้ภายนอก และ ยาใช้ภายใน เพราะการใช้ยาอย่างไม่ถูกวิธีอาจนำมาซึ่งอันตรายที่ไม่คาดคิดได้ บทความนี้ได้รวบรวมความรู้เกี่ยวกับ การใช้ยา และการเก็บรักษายาอย่างถูกต้องมาไว้ในบทความเดียว ครบ จบ เข้าใจง่าย เพื่อสุขภาพที่ดีของคุณเอง
ความหมายของการใช้ยา
การใช้ยา หมายถึง การนำยาไปใช้ในการรักษา บรรเทา หรือป้องกันโรคต่าง ๆ อย่างถูกต้อง ตามคำแนะนำของแพทย์ เภสัชกร หรือฉลากกำกับยา โดยต้องมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องของขนาดยา วิธีใช้ เวลาใช้ รวมถึงผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นด้วย
ความสำคัญของการใช้ยาอย่างถูกต้อง
-เพื่อให้การรักษาได้ผลลัพธ์ดีที่สุด
-ลดโอกาสเกิดผลข้างเคียงจากยา
-ป้องกันการดื้อยา เช่น การดื้อยาปฏิชีวนะ
-ประหยัดค่าใช้จ่ายในการรักษาโรคเรื้อรัง
-ช่วยลดอัตราการเสียชีวิตจากการใช้ยาผิด
ประเภทของยา
แบ่งตามวิธีการใช้ได้ 2 ประเภทหลัก ๆ คือ
ยาใช้ภายนอก
ยาใช้ภายนอก คือ ยาที่ใช้กับผิวหนังหรือส่วนอื่นของร่างกายภายนอก เช่น ตา หู จมูก ช่องปาก โดยไม่เข้าสู่ระบบไหลเวียนเลือดโดยตรง ตัวอย่างได้แก่ ครีมทาผิวแก้ผื่น สเปรย์พ่นบาดแผล ยาหยอดตา ยาพ่นจมูก เป็นต้น การใช้ยาใช้ภายนอกต้องใช้ตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด เพราะหากใช้ผิดวิธี อาจเกิดการระคายเคืองหรือแพ้ได้
ยาใช้ภายใน
ยาใช้ภายใน คือ ยาที่ต้องเข้าสู่ร่างกายทางการรับประทาน การฉีด หรือการสอด เช่น ยาเม็ด ยาแคปซูล ยาน้ำ ยาฉีด ยาสอดช่องคลอด การใช้ยาใช้ภายในต้องคำนึงถึงขนาดยา เวลาในการใช้ และต้องรับประทานให้ครบตามที่แพทย์สั่ง เพื่อป้องกันการดื้อยา
หลักการใช้ยาอย่างถูกต้อง
อ่านฉลากยาทุกครั้งก่อนใช้
ฉลากยาประกอบด้วย ชื่อยา ขนาดยา วิธีการใช้ และวันหมดอายุ
ใช้ยาตามเวลาที่กำหนด
การใช้ยา บางชนิดต้องใช้ก่อนอาหาร หรือหลังอาหาร ซึ่งมีผลต่อประสิทธิภาพของยา เช่น ยาลดกรดควรรับประทานก่อนอาหาร 30 นาที
ไม่หยุดยาเองโดยไม่ได้ปรึกษาแพทย์
การหยุดยาเองโดยเฉพาะยาปฏิชีวนะ อาจทำให้เชื้อโรคดื้อยา และการรักษายากขึ้นในอนาคต
ไม่แบ่งยากับผู้อื่น
เพราะแต่ละคนมีสภาพร่างกายและโรคประจำตัวต่างกัน การใช้ยาร่วมกันอาจเกิดอันตรายได้
วิธีการเก็บรักษายาอย่างถูกต้อง
เก็บในที่แห้งและเย็น ที่อุณหภูมิห้อง 25 องศาเซลเซียส และหลีกเลี่ยงความชื้น เช่น ห้องน้ำ
หลีกเลี่ยงแสงแดด เนื่องจากแสงแดดสามารถทำให้ตัวยาเสื่อมสภาพได้
เก็บยาให้พ้นมือเด็ก เพราะเด็กเล็กอาจหยิบยาไปเล่นหรือกินโดยไม่รู้ว่าคือยา อาจเกิดอันตรายร้ายแรงได้
ไม่ใช้ยาหมดอายุ การใช้ยา หมดอายุแล้วอาจสูญเสียประสิทธิภาพ หรืออาจเปลี่ยนเป็นสารอันตรายได้
ตัวอย่างการใช้ยาและการเก็บรักษาที่ถูกต้อง
กรณียาใช้ภายนอก เช่น ครีมทาผื่น
-ใช้เฉพาะบริเวณที่เป็นผื่น
-ล้างมือก่อนและหลังการใช้
-ปิดฝาทุกครั้งหลังใช้ และเก็บในที่ไม่โดนแดด
กรณียาใช้ภายใน เช่น ยาแก้ไข้พาราเซตามอล
-รับประทานตามขนาดที่ระบุในฉลาก
-ถ้าไม่หายไข้ภายใน 2 วัน ควรปรึกษาแพทย์
-เก็บในอุณหภูมิห้องธรรมดา ไม่แช่ตู้เย็น
สิ่งที่ไม่ควรทำเกี่ยวกับการใช้ยา
ไม่บดหรือหักยา หากไม่ระบุให้ทำ เพราะอาจลดประสิทธิภาพยา
ไม่ผสมยาหลายชนิด โดยไม่ปรึกษาแพทย์ เพราะอาจเกิดปฏิกิริยาไม่พึงประสงค์
ไม่ใช้ยาหมดอายุ หรือยาที่ดูผิดไปจากเดิม เช่น สีเปลี่ยน กลิ่นผิดปกติ
ไม่เก็บยากับอาหาร เพราะความชื้นและกลิ่นอาหารอาจทำให้ยาปนเปื้อนได้
ข้อแนะนำพิเศษสำหรับผู้สูงอายุ
เนื่องจากผู้สูงอายุมีการทำงานของร่างกายที่ลดลง จึงควรระวัง การใช้ยา เป็นพิเศษ เช่น ควรมีคนช่วยจัดยาให้เป็นรายวัน และตรวจสอบการกินยาให้ถูกต้องตามเวลา
ข้อแนะนำพิเศษสำหรับการใช้ยาสำหรับเด็ก
การใช้ยา สำหรับเด็กจำเป็นต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะร่างกายของเด็กมีความแตกต่างจากผู้ใหญ่ในหลายด้าน เช่น ระบบการเผาผลาญยา และการตอบสนองต่อยา ดังนั้น การใช้ยา ที่เหมาะสมจึงสำคัญอย่างยิ่ง ตามข้อแนะนำดังต่อไปนี้
ใช้ยาตามน้ำหนักตัว หรืออายุของเด็ก
เด็กแต่ละช่วงวัยต้องการขนาดยาแตกต่างกัน และห้ามใช้ขนาดยาของผู้ใหญ่แบ่งลดให้เด็กเองโดยไม่ปรึกษาแพทย์
ใช้อุปกรณ์ตวงยาที่แนบมาเสมอ
ใช้ช้อนตวง ถ้วยตวง หรือไซริงค์ที่แถมมากับยา เพื่อความแม่นยำ
อ่านฉลากและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
บรรจุภัณฑ์ต้องระบุชื่อยา วิธีการใช้ และเวลาการให้ยาชัดเจน ตรวจสอบวันหมดอายุของยาเสมอ
ห้ามผสมยากับนม หรืออาหารโดยไม่ได้รับคำแนะนำ
การผสมยากับอาหารอาจทำให้ตัวยาถูกทำลาย หรือเด็กได้รับยาไม่ครบขนาด หากจำเป็นต้องผสม ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อน
สังเกตอาการผิดปกติหลังใช้ยา
หากมีผื่นคัน หายใจลำบาก หรืออาเจียนรุนแรง ควรหยุดยาและรีบพบแพทย์ทันที
ไม่ให้เด็กกินยาผู้ใหญ่
ยาบางชนิดอาจมีความเข้มข้นสูงเกินไปสำหรับเด็ก ทำให้เสี่ยงเกิดพิษจากยาได้
สรุป
การใช้ยา เป็นเรื่องที่ทุกคนควรให้ความสำคัญมากกว่าที่คิด ไม่ว่าจะเป็นการเลือกใช้ให้ถูกต้องตามอาการ การแยกแยะระหว่าง ยาใช้ภายนอก และ ยาใช้ภายใน หรือการเก็บรักษายาอย่างเหมาะสม ทั้งหมดนี้ส่งผลต่อประสิทธิภาพการรักษาโดยตรง เพื่อสุขภาพที่ดีและปลอดภัย อย่าลืมว่า การใช้ยา อย่างมีความรู้ คือการดูแลตัวเองอย่างชาญฉลาด