เลือดกำเดาไหลเป็นอาการที่อาจพบได้ไม่บ่อยนัก แต่ก็มีโอกาสเกิดขึ้นได้กับทุกคน เนื่องจากเลือดกำเดาเกิดจากเส้นเลือดในจมูกที่บอบบางและเปราะแตกง่ายอยู่แล้ว ทุกคนจึงควรรู้วิธีปฐมพยาบาลเมื่อมีอาการเลือดกำเดาไหลอย่างถูกต้อง รวมถึงรู้ว่าลักษณะของอาการนั้นเป็นอย่างไร หากเป็นอาการแบบที่ควรพบแพทย์จะได้ไปรักษาที่โรงพยาบาลทันเวลา เพราะอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงอาการป่วยที่รุนแรงได้
สาเหตุที่ทำให้เลือดกำเดาไหล แบบไหนที่ควรไปพบแพทย์
เลือดกำเดาไหลเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ โดยแต่ละสาเหตุก็มีวิธีป้องกันและแก้ไขแตกต่างกันไป เลือดกำเดามีทั้งแบบที่ไหลข้างเดียวหรือไหลทั้งสองข้าง อาจไหลมากหรือไหลน้อยขึ้นอยู่กับลักษณะของเส้นเลือดที่แตก โดยลักษณะที่ควรไปพบแพทย์คือ เลือดไหลจากโพรงจมูกด้านหลัง เพราะเลือดจะไหลลงคอจนทำให้เกิดอันตรายได้ โดยสาเหตุของเลือดกำเดาไหลมีดังนี้
-
แคะ แกะ หรือเกาโพรงจมูกแรงเกินไป
หลายคนติดนิสัยชอบแคะ แกะ หรือล้วงจมูกอยู่บ่อย ๆ จึงอาจทำให้เผลอแคะแรงเกินไปจนไปถูกเส้นเลือดฝอยในโพรงจมูกได้ รวมถึงนิสัยชอบสั่งน้ำมูกหรือจามแรง ๆ ก็ส่งผลต่อเส้นเลือดฝอยในจมูกได้เช่นกัน ถึงแม้จะไม่ใช่อาการแบบร้ายแรง แต่การปรับพฤติกรรม ไม่แคะจมูกจนติดเป็นนิสัย ก็จะช่วยป้องกันได้
-
สภาพอากาศที่แห้งเกินไป
เมื่อสภาพอากาศและอุณหภูมิเปลี่ยนแปลง มีความหนาวเย็นหรือร้อนเกินไป และแห้งจนเกินไป ทำให้คนกลุ่มเสี่ยงได้แก่ เด็กอายุต่ำกว่า 10 ปี คนชรา และคนที่สุขภาพไม่แข็งแรง มักมีอาการเลือดกำเดาไหล รวมถึงผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคภูมิแพ้ โรคความดันโลหิตสูง เมื่ออากาศเปลี่ยนแปลงประกอบกับจมูกแห้งก็ทำให้เลือดกำเดาไหลง่ายกว่าคนปกติ
-
การใช้ยาบางชนิดมากเกินไป
ยาบางชนิดมีผลทำให้โพรงจมูกแห้ง เช่น ยารักษาโรคภูมิแพ้ ยารักษาอาการไข้หวัด ยารักษาโรคไซนัส รวมไปถึงการใช้ยาแอสไพรินมากเกินไปก็ทำให้เลือดกำเดาไหลได้ เมื่อต้องใช้ยาเหล่านี้ควรปรึกษาแพทย์และใช้ในปริมาณที่เหมาะสม
การปฐมพยาบาลเมื่อเลือดกำเดาไหลอย่างถูกวิธี
โดยปกติแล้วอาการเลือดกำเดาไหลสามารถหยุดเองได้ภายใน 10-15 นาที หากเกินกว่านั้นควรไปพบแพทย์เพราะอาจมีสาเหตุร้ายแรงซ่อนอยู่ ระหว่างที่เลือดกำเดายังไหลอยู่สามารถปฐมพยาบาลได้ตามวิธีดังต่อไปนี้
- นั่งนิ่ง ๆ และเอียงคอหรือก้มหน้าไม่ให้เลือดไหลลงคอ ใช้การบีบปีกจมูกเพื่อช่วยให้เลือดหยุดไหลเป็นเวลา 10 นาที หากเลือดยังไหลอยู่ให้บีบต่ออีก 10 นาที
- ทำอุณหภูมิร่างกายให้เย็นลง เมื่ออุณหภูมิร่างกายเย็นลงจะทำให้ระบบไหลเวียนเลือดช้าลง ให้ใช้วิธีอมน้ำแข็งไว้ในปาก
- ล้างจมูกให้สะอาดแล้วนอนพักผ่อน
ใช้ยาพ่นจมูกที่มีตัวยาออกซีเมตาโซลีนช่วยรักษาอาการ
ทั้งนี้ อาการเลือดกำเดาไหลยังสามารถป้องกันโดยการรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ มีใยอาหารสูง และมีฟลาโวนอยด์เพื่อช่วยให้หลอดเลือดแข็งแรงมากขึ้น