กิจกรรมที่ควรงดก่อนตรวจมะเร็งปากมดลูก
การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกเป็นหนึ่งในรายการตรวจร่างกายที่มีความสำคัญกับคุณผู้หญิง โดยมากแพทย์จะตรวจควบคู่ไปกับการตรวจภายในเพื่อค้นหาความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นเนื่องจากการมีพฤติกรรมเสี่ยง หรือช่วงอายุที่มากขึ้น เพราะหากพบความผิดปกติใด ๆ จะได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที
มะเร็งปากมดลูกเป็นชนิดของมะเร็งที่ถูกตรวจพบได้มากที่สุดในผู้หญิงไทย สาเหตุมาจากการติดเชื้อไวรัสเอชพีวี ซึ่งจริง ๆ แล้วติดได้ง่ายมาก แม้จะมีคู่นอนเพียงคนเดียว ดังนั้นการได้รับวัคซีนและการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกทุกปี จึงเป็นสิ่งที่ควรปฏิบัติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพศหญิงที่มีอายุตั้งแต่ 21 ปีขึ้นไป
ปฏิบัติอย่างไรให้ผลตรวจมะเร็งปากมดลูกออกมาเที่ยงตรง
คุณผู้หญิงที่ต้องการเข้ารับการบริการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกมีสิ่งที่ควรและไม่ควรทำก่อนถึงวันนัดหมายดังต่อไปนี้
สิ่งที่ควรทำ
- ทำความสะอาดช่องคลอดด้วยน้ำเปล่า หรือผลิตภัณฑ์เพื่อจุดซ่อนเร้นเฉพาะภายนอก
- ทบทวนประวัติต่าง ๆ ของตัวเองเพื่อให้ข้อมูลตามจริงแก่แพทย์ เช่น จดบันทึกวันที่มีประจำเดือน การมีเพศสัมพันธ์ หรือความเสี่ยงการตั้งครรภ์
- สวมใส่ชุดที่สบาย และง่ายต่อการผลัดเปลี่ยน
สิ่งที่ไม่ควรทำ
- ไม่ควรไปในช่วงที่มีประจำเดือน หรือพึ่งจะหมดประจำเดือน เพราะอาจทำให้เสี่ยงการติดเชื้อที่บริเวณช่องคลอด
- ไม่ควรสวนล้างช่องคลอด หรือพยายามทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นภายใน เพราะอาจทำให้ต้นตอของสิ่งที่ตรวจหาหายไป
- ไม่ควรตรวจหลังจากที่มีเพศสัมพันธ์ไม่เกิน 2 วัน แม้ติดเชื้อก็อาจจะทำให้ตรวจไม่เจอ
- ไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์อื่น ๆ กับช่องคลอดก่อนตรวจ เช่น ใช้ผ้าอนามัยแบบสอด ครีม เจล หรือยาอื่น ๆ
- ไม่ต้องกำจัดขนก่อนเข้ารับการตรวจ เพราะบางครั้งการขึ้นของขนก็สามารถให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการวินิจฉัยได้
ทำอย่างไร ถ้าไม่อยากเสี่ยงกับมะเร็งปากมดลูก
คีย์หลักของคนที่อยากห่างไกลจากความเสี่ยงในการติดเชื้อเอชพีวี ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดมะเร็งปากมดลูกคือ การสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย ซึ่งสามารถสร้างได้จากหลาย ๆ วิธี เช่น การรับประทานอาหารตามหลักโภชนาการ การออกกำลังกายสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ และหลีกเลี่ยงการสูบและสัมผัสควันบุหรี่ ซึ่งจากผลสำรวจพบว่าจะทำให้ภูมิคุ้มกันต่ำ และมีโอกาสทำให้เชื้อเอชพีวีแข็งแรงขึ้น
และอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันเชื้อเอชพีวีได้แน่นอนคือ การเข้ารับวัคซีนเอชพีวี ซึ่งปกติจะได้ผลดีที่สุดเมื่อฉีดก่อนการได้รับเชื้อ สามารถฉีดได้ในเด็ก ๆ โดยฉีด 2 เข็ม ส่วนถ้าเป็นผู้ใหญ่ก็ฉีด 3 เข็ม เพื่อป้องกันเชื้อเอชพีวีสายพันธุ์หลักที่เป็นสาเหตุของมะเร็งคือ สายพันธุ์ที่ 16 และ 18 นอกจากนี้ การได้รับวัคซีนควรมาคู่กับการตรวจมะเร็งปากมดลูกประจำปี ซึ่งเดี๋ยวนี้นิยมใช้วิธีแปปสเมียร์ จะทำให้รู้ได้หลังตรวจทันทีเลยว่า เชื้อเฮชพีวีที่ได้รับมาเป็นสายพันธุ์อะไร
ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้หญิง การรู้จักป้องกันและดูแลตัวเองเป็นสิ่งจำเป็น และควรทำให้ถูกวิธีและถูกเวลา หากปฏิบัติตัวให้ถูกต้องตามหลักทางการแพทย์ ก็ไม่ต้องกลัวว่าการตรวจคัดกรองไวรัสเอชพีวีเป็นสิ่งน่ากลัว หากเป็นและรู้เร็ว ก็สามารถวางแผนการรักษาร่วมกับแพทย์ และดูแลรักษาตัวเองให้อาการดีขึ้นจนเชื้อหมดไปได้
บทความที่น่าสนใจ
ราคาตรวจภายในผู้หญิง และ ราคาตรวจมะเร็งปากมดลูก
ต่อมบาร์โธลินอักเสบ (Bartholin’s Abscess) หรือฝีที่อวัยวะเพศหญิง เกิดจากอะไร