ใช้ยาผิดชีวิตเปลี่ยน! แนะนำวิธีการใช้ยาที่ถูกต้อง

ความเจ็บป่วยกับคนเราถือว่าเป็นของคู่กัน ซึ่งเวลาป่วยสิ่งที่เราต้องทำก็คือการไปหาหมอเพื่อตรวจรักษา หรือบางคนถ้าอาการไม่รุนแรงก็อาจจะเลือกใช้วิธีหาซื้อยามากินเอง ซึ่งหากไม่ได้รับคำแนะนำที่ถูกต้องอาจนำไปสู่อันตรายที่ร้ายแรงได้ นอกจากนี้ยังรวมถึงเรื่องการเก็บรักษาและการกินยาให้ถูกโรคถูกเวลาด้วย สำหรับบทความนี้เรามีสาระน่ารู้เกี่ยวกับการใช้ยามาฝาก เพื่อสร้างความรู้และความเข้าใจที่ถูกต้อง

วิธีการใช้ยาที่ถูกต้อง

การใช้ยาที่ถูกต้องนำมาซึ่งประสิทธิภาพในการรักษาโรค รวมถึงความปลอดภัยของผู้ใช้ด้วย ซึ่งหลักการใช้ยาที่ดีนั้นประกอบไปด้วย

1. ใช้ยาตามคำแนะนำของแพทย์หรือเภสัชกร

สิ่งสำคัญอันดับแรกในการใช้ยาไม่ว่าจะเป็น ยาใช้ภายนอก หรือ ยาใช้ภายใน ก็คือฟังคำแนะนำจากผู้รู้นั้นก็คือแพทย์หรือเภสัชกรนั่นเอง เพราะถือว่าเป็นบุคลากรทางการแพทย์ที่มีความรู้ที่ถูกต้อง โดยข้อมูลเบื้องต้นที่เราต้องจำให้ได้ก็คือ วิธีการกินยาชนิดนั้นกล่าวคือ กินครั้งละกี่เม็ด เป็นยาก่อนอาหารหรือหลังอาหาร ต้องกินเวลาไหนบ้าง หรือถ้าเป็นยาทาควรทาบริเวณไหนอย่างไร นอกจากนี้ยังมีเรื่องของข้อห้ามหรือข้อควรระวังในการใช้ยา เช่น ยาบางประเภทห้ามกินกับอาหารเสริม หรือยาบางตัวกินแล้วทำให้เกิดอาการง่วงซึม ไม่ควรขับรถ เป็นต้น

2. การใช้ยาให้ถูกขนาดไม่มากไม่น้อยจนเกินไป

เรื่องต่อมาที่ต้องให้ความสำคัญก็คือการใช้ยาให้ถูกขนาด ซึ่งเรื่องที่หลายคนเข้าใจผิดก็คือถ้ากินยาเยอะ ๆ มากกว่าที่กำหนดจะทำให้หายเร็วขึ้น เรื่องนี้ถือว่าเป็นความเข้าใจผิด เช่น เอกสารกำกับยาบอกว่ากิน 2 เวลา หลังอาหารเช้า-เย็น ครั้งละ 1 เม็ด บางคนอาจกินครั้งละ 2 เม็ด หรือกินมากกว่า 2 เวลา เป็นต้น ในส่วนของการใช้ยาที่ถูกต้องก็คือกินยาตามหมอสั่ง อาทิ หากเป็นไข้ ผู้ใหญ่ควรกินยายาพาราเซตามอล ขนาด 500 มิลลิกรัม ครั้งละ 2 เม็ด ทุก ๆ  4 ชั่วโมง และหากเป็นเด็กปริมาณของยาก็จะลดลงตามน้ำหนักตัวและอายุ

3. การใช้ยาให้ถูกเวลาเรื่องที่ไม่ควรละเลย

พูดถึงการใช้ยาให้ถูกขนาดไปแล้วคราวที่มาถึงการใช้ยาให้ถูกเวลากันบ้าง ที่เราคุ้นเคยกันดีก็คือ ยาก่อนอาหารควรกินก่อนอาหาร 15-30 นาที ยาหลังอาหารควรกิน 15-30 นาที หลังอาหาร หรือยาก่อนนอน ควรกินก่อนนอน 15-30 นาที เป็นต้น อย่างไรก็ตามยังมีความเข้าใจที่คาดเคลื่อนในเรื่องระยะเวลาของการกินยา อาทิ การเป็นไข้แล้วไปเอายาของคนอื่นมากินซึ่งอาจทำให้เกิดอันตรายได้ หรือการหยุดยาเองเพราะคิดว่าหายดีแล้ว ซึ่งยาบางตัวเช่นยาฆ่าเชื้อควรกินต่อกันจนหมด

4. ควรเก็บยาอย่างถูกต้องเพื่อป้องกันยาเสื่อมสภาพ

ทราบเรื่องของการใช้ยาไปแล้วคราวนี้เรามาดูเรื่องของการเก็บรักษายากันบ้าง โดยหากไม่ระมัดระวังอาจเกิดการเสื่อมสภาพของยาจนไม่มีประสิทธิภาพในการรักษาและอาจก่อให้เกิดอันตรายกับผู้ใช้ได้ โดยการเก็บรักษาอย่างถูกต้องนั้นเบื้องต้นควรเก็บให้พ้นจากแสงแดด เก็บในที่แห้ง ณ อุณหภูมิห้อง เก็บให้ห่างจากเด็กหรือสัตว์เลี้ยง โดยยาบางชนิดอาจต้องเก็บในตู้เย็น เช่น ยาหยอดตา นอกจากนี้ควรตรวจสอบสภาพของยาว่ายังสมบูรณ์อยู่หรือไม่ หมดอายุหรือยัง วิธีสังเกตง่าย ๆ ก็คือการบวมพองของเม็ดยา กลิ่นที่เปลี่ยนไป หรือถ้าเป็นยาน้ำอาจมีสีผิดปกติหรือตกตะกอน เป็นต้น

5. ผลข้างเคียงของการใช้ยาที่ควรรู้

เรื่องสุดท้ายที่เราอยากให้คุณใส่ใจและหมั่นสังเกตก็คือผลข้างเคียงจากการใช้ยาบางตัว โดยสาเหตุของการเกิดผลข้างเคียงหลังใช้ยานั้นหลัก ๆ แบ่งออกเป็น 3 เหตุผลคือ ข้อแรกคือการกินยาร่วมกับของต้องห้าม เช่น ผลไม้บางอย่าง เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ หรือกินยากับวิตามินบางตัวที่เราได้กล่าวไปแล้วในตอนต้น ข้อต่อมาก็คือการกินยาที่หมดอายุหรือเสื่อมสภาพ ส่วนข้อสุดท้ายอาจเกิดจากการแพ้ยาตัวนั้น ๆ ซึ่งอาการบ่งชี้ของผู้ที่แพ้ยานั้นมีตั้งแต่ ปากแห้ง มีอาการง่วงซึมตลอดเวลา ปวดท้อง หรือเป็นผื่นขึ้นตามตัว เป็นต้น

สรุป

และทั้งหมดนี้ก็คือวิธีการใช้ยาที่ถูกต้องและปลอดภัย ถูกโรค ถูกเวลา ถูกขนาด ซึ่งการกินยาหรือทายานั้นหากใช้อย่างเข้าใจก้จะช่วยให้การรักษามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ตรงกันข้ามถ้ากินยาเกินขนาด กินยาที่เสื่อมสภาพหรือหมดอายุ ก็อาจส่งผลเสียและอันตรายร้ายแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตก็มีข่าวให้เห็นกันเรื่อย ๆ  ดังนั้นมาใช้ยาอย่างถูกต้องและเหมาะสมทั้งตัวคุณเองรวมถึงคนในครอบครัวด้วย

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

This site uses cookies to offer you a better browsing experience. By browsing this website, you agree to our use of cookies.