เช็กด่วน! เบอร์มือถือที่ผูกกับ Mobile banking ตรงกันหรือไม่ ก่อน 30 เม.ย. 68 ป้องกันถูกระงับ

ตรวจสอบเบอร์มือถือที่ผูกกับ Mobile Banking ก่อน 30 เม.ย. 68 ป้องกันการถูกระงับบัญชี

การทำธุกรรมออนไล์เป็นเรื่องที่ใครๆก็ทำได้ในยุคนี้ ล่าสุด สำนักงาน กสทช. และกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (MDES) จึงได้ออกมาตรการให้ประชาชนตรวจสอบและยืนยันว่าเบอร์มือถือที่ใช้กับบัญชีธนาคารมีชื่อตรงกับผู้ถือบัตรประชาชน

เพื่อเป็นการยกระดับความปลอดภัยในการใช้ Mobile Banking และป้องกันการถูกนำเบอร์ไปใช้ในธุรกรรมที่ผิกฎหมาย เช่น บัญชีม้าและซิมม้า โดยมีเส้นตายให้ดำเนินการภายในวันที่ 30 เมษายน 2568

วิธีเช็กว่าเบอร์มือถือที่ผูกกับบัญชีธนาคารถูกต้องหรือไม่

เบอร์มือถือกับบัญชีธนาคารต้องตรงกัน
  1. ตรวจสอบข้อมูลเจ้าของเบอร์มือถือว่าตรงกันหรือไม่

เริ่มแรกให้เรากดเข้าที่หน้า ‘แป้นกดโทรศัพท์’ แล้วกดข้อความตามนี้ได้เลย

*179*หมายเลขบัตรประชาชน 13 หลัก# แล้วกดโทรออก

เมื่อกดโทรออกแล้ว ระบบจะส่ง SMS แจ้งผลทันที หากชื่อไม่ตรงกัน ควรรีบดำเนินการแก้ไขโดยด่วน

  1. ตรวจสอบผ่านแอปพลิเคชันธนาคาร 

บางธนาคารมีระบบแจ้งเตือนหากข้อมูลไม่ตรงกัน เช่น ธนาคารกรุงไทย ที่ให้ลูกค้าเข้าไปที่แอป Krungthai NEXT แล้วตรวจสอบข้อมูลของตนเอง

  1. ติดต่อผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือ 

หากพบว่าเบอร์โทรศัพท์ที่ใช้งานอยู่ไม่ตรงกับข้อมูลบัตรประชาชนของคุณ ควรรีบไปที่ศูนย์บริการของเครือข่ายมือถือ (AIS, TrueMove H, Dtac) พร้อมนำบัตรประชาชนตัวจริงไปปรับปรุงข้อมูลให้ถูกต้อง




หากไม่ได้ตรวจสอบภายในช่วงเวลาที่กำหนดจะเกิดอะไรขึ้น

บัญชี Mobile banking ของคุณอาจถูกระงับการใช้บริการ ความเสี่ยงต่อการถูกระงับการใช้งานบัญชีธนาคารบางฟังก์ชัน รวมไปถึงอาจได้รับผลกระทบทางด้าน ความปลอดภัยของข้อมูลทางการเงินของคุณ

กรณีไหนบ้างที่ได้รับการยกเว้น

จะมีผู้ใช้งานบางกรณีที่อาจได้รับการยกเว้นหรือพิจารณาเป็นพิเศษ เช่น

  • หน่วยงานราชการและองค์กร สำหรับเบอร์มือถือที่จดทะเบียนในนามหน่วยงานราชการ เช่น สำนักงานอัยการสูงสุด หรือองค์กรที่ใช้โดยพนักงานหรือเจ้าหน้าที่ จะได้รับการยกเว้น
  • กรณีมีข้อจำกัดเฉพาะ ลูกค้าที่มีความจำเป็นหรือมีข้อจำกัดเฉพาะ เช่น ไม่สามารถเปลี่ยนหมายเลขโทรศัพท์มือถือได้ เนื่องจากข้อจำกัดทางกฎหมายหรือเอกสาร สามารถยื่นคำขอยกเว้นพร้อมเอกสารประกอบแสดงเหตุผลต่อธนาคาร
  • บุคคลในครอบครัว เช่น พ่อ แม่ บุตร พี่น้อง ปู่ ย่า ตา ยาย รวมไปถึงคู่สมรส (ที่จดทะเบียน) โดยคุณจะต้องทำการแสดงเอกสารแสดงความสัมพันธ์ต่อธนาคาร ได้แก่ เอกสารที่ออกโดยหน่วยงานราชการ เช่น ทะเบียนบ้าน สูติบัตร ทะเบียนสมรส เป็นต้น รวมไปถึงเอกสารที่แสดงถึงความเป็นเจ้าของหมายเลขโทรศัพท์ เช่น ใบเสร็จค่าโทรศัพท์ และใบกำกับภาษี เป็นต้น
  • นิติบุคคล ได้แก่ บริษัทเอกชน หรือนิติบุคคลตามกฎหมาย (กรณีที่ลงทะเบียนในนามนิติบุคคลและให้พนักงานในองค์กรใช้งาน) จะต้องมีเอกสารรับรองจากบริษัท ที่มีข้อความระบุชื่อ หมายเลขโทรศัพท์ และอนุญาตให้ใช้หมายเลขโทรศัพท์ผูก Mobile Banking
  • บุคคลที่ต้องได้รับการดูแลตามกฎหมาย ได้แก่ ผู้ที่ไร้ซึ่งความสามารถ ผู้เสมือนไร้ความสามารถ และผู้พิการ โดยบุคคลกลุ่มนี้จะต้องนำเอกสารตามคำสั่งศาลแต่งตั้งผู้อนุบาล หรือเอกสารตามคำสั่งศาลแต่งตั้งผู้พิทักษ์ บัตรผู้พิการ หรือเอกสารที่หน่วยงานราชการออกให้ มายื่นแสดงต่อธนาคาร

สำหรับกรณีที่ตัวของเจ้าของบัญชีไม่สามารถไปทำการขอยกเว้นด้วยตนเองได้ เช่น อยู่ต่างประเทศต้องมีหนังสือมอบอำนาจ หรือผู้ป่วยติดเตียงจำเป็นต้องมีเอกสารเพิ่มเติมเพื่อให้ทางธนาคารทำการพิจารณา




สรุป

และเพื่อป้องกันปัญหาการใช้งานบัญชีธนาคารและเพิ่มความปลอดภัยในการทำธุรกรรม แนะนำให้ทุกคนตรวจสอบเบอร์มือถือของตนเองว่าตรงกับบัญชีธนาคารหรือไม่

สามารถทำได้ง่าย ๆ ผ่านรหัส *179*ตามด้วยรหัสบัตรประชาชน13หลัก# หรือแอปพลิเคชันของธนาคาร และหากพบปัญหา ควรดำเนินการแก้ไขที่ศูนย์ให้บริการเครือข่ายมือถือโดยเร็วที่สุด ก่อนถึงกำหนดวันที่ 30 เมษายน 2568

เรียบเรียงข้อมูลจาก

  • ดีอี คิกออฟ มาตรการ “Mobile Banking” เร่งสกัด “บัญชีม้า” ตัดตอน “โจรออนไลน์” เริ่ม 1 ก.พ.68, กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
  • ทำอย่างไร หากชื่อเจ้าของซิมเบอร์มือถือ ไม่ตรงกับชื่อบัญชีโมบายแบงก์กิ้งที่ผูกไว้, กรุงไทย




Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

This site uses cookies to offer you a better browsing experience. By browsing this website, you agree to our use of cookies.