โอ้ยคัน! คันจนน่ารำคาญ สาวๆหลายคนจะต้องเคยพบกับปัญหา ‘คันช่องคลอด’ ที่น่ารำคาญ แถมยังเป็นปัญหาในที่ลับอีก ทำไมมันถึงคันได้คันดี จะปรึกษาใครก็อาย แล้วอย่างนี้จะรักษาอาการคันช่องคลอดได้ยังไงดีล่ะ ซื้อยามารักษาเองเลยจะเป็นอะไรมั้ยนะ ไปดูกันเลย
ตกขาวผิดปกติ อีกหนึ่งสาเหตุของอาการคันช่องคลอด!
สารบัญ
- คันช่องคลอด เกิดจากอะไร?
- อาการคันช่องคลอด กับ ตกขาว
- คันช่องคลอดและฉี่บ่อย เกิดจาก?
- การรักษาอาการคันที่ช่องคลอด
- คันช่องคลอดใช้ยาอะไร
- การดูแลตัวเอง เมื่อมีอาการคัน
- อาการคันไหน ถึงควรไปหาหมอ?
- มีอาการคันที่ช่องคลอด ต้องหาไปหมออะไร?
คันช่องคลอด เกิดจากอะไร?
อาการคันช่องคลอด เกิดได้จากหลายปัจจัยด้วยกัน ซึ่งหลายๆปัจจัยล้วนมาจากพฤติกรรมของสาวๆเองทั้งนั้น ซึ่งสาเหตุที่เราพบได้บ่อยๆ ได้แก่
การขาดฮอร์โมนเอสโตรเจน
อาการนี้มักพบในผู้หญิงที่เริ่มเข้าสู่ช่วงวัยหมดประจำเดือน เมื่อสารหล่อลื่นในช่องคลอดมีจำนวนน้อยลง ก็จะทำให้ช่องคลอดแห้งและเกิดอาการคัน และการระคายเคือง
มีเชื้อแบคทีเรียในช่องคลอด
เนื่องจากแบคทีเรียที่ดีและไม่ดีในช่องคลอดไม่สมดุลกัน หากมีแบคทีเรียชนิดไหนมากเกินไป ก็อาจส่งผลร้ายทำให้เกิดการติดเชื้อในช่องคลอดได้อีกด้วยนะ!
เป็นโรคริดสีดวงทวาร
แม้ว่าริดสีดวงจะเกิดที่บริเวณรูทวาร แต่ก็สามารถแพร่เชื้อมาสู่ที่ช่องคลอดได้ และก่อให้เกิดอาการคันได้ ซึ่งหากอาการคันช่องคลอดของคุณมาพร้อมกับอาการคันบริเวณทวาร อาจเป็นไปได้ว่าคุณเป็นริดสีดวง หากมีอาการหนักและมีเลือดออกควรรีบไปหาหมอ
การติดเชื้อจากเพศสัมพันธ์
การติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์บางครั้งอาจทำให้สาวๆมีอาการคัน เจ็บ และอาจมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ร่วมด้วย โดยโรคที่ส่งผลให้เกิดอาการคันช่องคลอด ได้แก่ เริม หูดที่อวัยวะเพศ และพยาธิในช่องคลอด หากสงสัยว่าติดโรคทางเพศสัมพันธ์ควรไปหาหมอเพื่อตรวจคัดกรองจะดีที่สุด
เป็นช่องคลอดเป็นเชื้อรา
สาเหตุนี้สามารถพบบ่อยมาก โดยการติดเชื้อจากเชื้อราชนิดยีสต์เติบโตภายในช่องคลอด อาจทำให้รู้สึกคัน แสบร้อนที่บริเวณช่องคลอด และมีตกขาวคล้ายๆนมสีใสๆ หรือนมบูด
การแพ้เนื่องจากของใช้อื่นๆ
สาวๆบางคนอาจเกิดอาการแพ้กับของใช้รอบตัวได้ เช่น ผ้าอนามัย สบู่อาบน้ำ น้ำยาล้างจุดซ่อนเร้น การโกนขนที่จุดซ่อนเร้น กางเกงชั้นใน หรือบางคนที่ชอบใส่กางเกงรัดแน่นๆจนเกินไปก็ทำให้รู้สึกคันได้ หากคิดว่าสาเหตุการคันช่องคลอดมาจากปัจจัยดังกล่าว อาจทดลองหยุดใช้เพื่อสังเกตุว่าอาการดีขึ้นหรือไม่ หากไม่ดีขึ้นควรไปพบแพทย์เพราะหากเกิดจากสาเหตุอื่นๆ
อาการคันช่องคลอด กับ ตกขาว
การที่สาวๆมีอาการคันช่องคลอด แน่นอนว่าสาเหตุส่วนหนึ่งย่อมมาจากการที่ตกขาวมีความผิดปกติ ซึ่งส่วนมากมักเกิดขึ้นมาจาก ‘เชื้อราในช่องคลอด’ ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการระคายเคืองที่ช่องคลอด อาจมีตกขาวเยอะจนผิดปกติ ตกขาวจับตัวกันเป็นก้อนๆ และหากไปแกะ ไปเกาอาจเกิดแผลตามมา ซึ่งสามารถทำให้ช่องคลอดเกิดการติดเชื้อได้เลยนะ
ตกขาว คันช่องคลอดเป็นๆหายๆ
คันช่องคลอดและฉี่บ่อย เกิดจาก?
การที่รู้สึกคันที่บริเวณช่องคลอดและรู้สึกแสบขัด หรือฉี่บ่อยๆอาจเป็นสัญญาณของโรคอย่าง การติดเชื้อพยาธิในช่องคลอด หรือการติดเชื้อที่ทางเดินปัสสาวะ
การติดเชื้อพยาธิในช่องคลอด
โดยมักมีสาเหตุมาจากเพศสัมพันธ์โดยอาจมีอาการ คือ
- ตกขาวสีเหลือง-เขียว
- มีเลือดออกตอนที่มีเพศสัมพันธ์
- รู้สึกปวดตอนฉี่และส่งผลให้ฉี่บ่อยขึ้น
- และปวด แสบ คันช่องคลอด
การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ
แม้ว่าจะไม่ได้เกี่ยวข้องกับอาการคันช่องคลอด แต่บางครั้งหากมีการติดเชื้อที่ช่องคลอดร่วมกับทางเดินปัสสาวะอาจทำให้เกิดอาการคันช่องคลอดได้เช่นกัน
การรักษาอาการคันที่ช่องคลอด
รักษาอาการคันช่องคลอดอาจต้องเฝ้าสังเกตุตามอาการ บางรายอาจไม่จำเป็นต้องทำการรักษาก็สามารถหายเองได้ บางรายต้องรักษาด้วยการใช้ยา มีทั้งแบบรับประทาน แบบทา และเหน็บช่องคลอด ขึ้นอยู่กับสาเหตุของอาการ แต่หากคุณมีการคันช่องคลอดอย่างต่อเนื่อง รุนแรง และไม่ดีขึ้นอาจต้องไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุ ซึ่งแพทย์อาจต้องทำการเก็บตัวอย่างเพื่อไปหาความผิดปกติในแล็บอีกครั้ง
คันช่องคลอดใช้ยาอะไร?
ยาแก้คันช่องคลอด
- การคันในวัยใกล้หมดประจำเดือน อาจรักษาด้วยการใช้เจลหล่อลื่น มอยเจอร์ไรเซอร์ ทาภายในช่องคลอด เพื่อให้มีความชุ่มชื้น
- การคันจากการติดเชื้อรา ต้องรักษาด้วยยาต้านเชื้อรา โดยจะมีทั้งยาที่ใช้รับประทาน ทา และยาเหน็บช่องคลอด แต่ทั้งนี้ควรพบแพทย์ก่อนซื้อยามาใช้เอง
- การคันจากช่องคลอดอักเสบ หรือโรคทางเพสสัมพันธ์ ต้องรักษาด้วยการใช้ยาปฏิชีวนะ ควรพบแพทย์ก่อนซื้อยามาใช้เอง
- การคันจากการแพ้ รักษาด้วยการใช้ยารักษาอาการแพ้เกี่ยวกับผิวหนัง
คันช่องคลอด ใช้ยาสอดแล้วไม่หาย
สาเหตุที่คุณใช้ยาสอดแล้วยังไม่หายนั้นไม่แน่นอน ในกรณีที่คุณไม่เคยไปพบแพทย์และซื้อยามาใช้เองอาจเป็นไปได้ว่าคุณใช้ยารักษาไม่ตรงตามอาการ หรือหากได้รับการจ่ายยาโดยแพทย์ อาจเกิดได้จากการใช้ยาที่ไม่ถูกวิธี ทางที่ดีควรไปหาหมอและเข้ารับการตรวจโดยระเอียดอีกครั้งเพื่อหาสาเหตุ
การดูแลตัวเอง เมื่อมีอาการคัน
- ใส่ชุดชั้นในที่ทำจากผ้าฝ้าย
- ทานอาหารที่มีโพรไบโอติก เช่น โยเกิร์ต กิมจิ คอมบูชา(ชาหมัก)
- ทาด้วยน้ำมันมะพร้าว แต่ต้องเป็นน้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์
- อาบน้ำด้วยเบคกิ้งโซดา โดยใช้เบคกิ้งโซดา 1/4 ถ้วย – 2 ถ้วย ผสมในอ่างน้ำ และแช่ตัวประมาณ 10 – 40 นาที
- รักษาสุขอนามัยและความสะอาด งดใช้พวกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดจุดซ่อนเร้น และไม่ควรปล่อยให้อับชื้น
- ควรหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ไปเลย จนกว่าอาการจะดีขึ้น
- ใช้ยาต้านเชื้อรา และครีมคอร์ติโซน แต่ทั้งนี้ควรปรึกษาเภสัชกร และแพทย์ก่อนใช้
อาการคันไหน ถึงควรไปหาหมอ?
ส่วนมากหากมีอาการเล็กน้อยสามารถหายเองได้ แต่หากคุณมีอาการแย่ลงหรือไม่ดีขึ้นอาจต้องไปหาหมอ ซึ่งอาการหลักที่ต้องไปหาหมอ เช่น
- ผู้ที่รักษาหายแล้ว แต่กลับมาเป็นซ้ำอีกครั้ง
- มีอาคันช่องคลอดและตกขาวผิดปกติร่วมด้วย ไม่ว่าจะกลิ่นเหม็น หรือสีผิดปกติ หรือมีเยอะมากกว่าปกติ
- รู้สึกแสบ คัน มีเลือดออก (ไม่ใช่เลือดจากการมีประจำเดือน)
- เป็นผู้ที่มีปัญหาสุขภาพอยู่แล้ว หรือโรคประจำตัว
- หากเป็นผู้ตั้งครรภ์ควรปรึกษาแพทย์ผู้ที่ฝากครรภ์
มีอาการคันที่ช่องคลอด ต้องหาไปหมออะไร?
หากพบว่ามีอาการคันช่องคลอด ร่วมกับอาการผิดปกติควรไปหา ‘แพทย์เฉพาะทางสูตินรีเวช’ เพื่อทำการรักษาอาการคันช่องคลอด รวมถึงแพทย์จะได้ทำการตรวจวินิจฉัยหาสาเหตุได้อย่างตรงจุด ก่อนการรับยาเพื่อป้องกันความเสี่ยงซ้ำซ้อนจากการใช้ยาไม่ตรงกับอาการ
อยากรักษาอาการคันช่องคลอดแบบได้ผลลัพธ์ที่ดีในการรักษา ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนชัวร์กว่า ซื้อยามาใช้มั่วอาจซวยได้ป่วยหนักกว่าเดิม แถมยังต้องเสียเงินรักษาสองต่อด้วยนะ