จำนวนผู้เข้าชม : 3,347
ยาเป็นหนึ่งในปัจจัยสี่ที่ทุกบ้านควรมีไว้อย่างเพียงพอ แต่ยาเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการสกัดและสังเคราะห์จากกระบวนการเคมี ทำให้ลักษณะในการเก็บรักษายาส่งผลต่อประสิทธิภาพและอายุการใช้งานของยานั้น ๆ จึงทำให้ยาแต่ละชนิดมีวิธีการเก็บรักษาที่แตกต่างกันไป ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนควรรู้เพื่อให้ใช้ยาได้อย่างถูกต้องและยังคงให้ผลการรักษาได้เต็มประสิทธิภาพ
สารบัญ

การเก็บรักษายาตามประเภท แยกการใช้งานอย่างถูกต้อง
การเก็บรักษายาควรเก็บในจุดที่เป็นกิจจะลักษณะ มีการจัดระเบียบตู้ยาประจำบ้านเพื่อให้สะดวกต่อการหยิบมาใช้ และการจัดยาตามประเภทของยา ก็จะช่วยให้หายาได้อย่างทันท่วงทีในกรณีฉุกเฉินได้อีกด้วย เมื่อได้รับยามาแล้วจึงควรอ่านฉลากของยาให้ละเอียดทุกครั้งก่อนใช้และก่อนจัดเก็บ โดยการแยกประเภทของยาอย่างง่าย ๆ สามารถแบ่งได้ดังนี้
-
แบ่งประเภทยาใช้ภายใน หรือยาใช้ภายนอก
ยาใช้ภายในคือยาที่ใช้วิธีรับประทานหรือสูดดมเข้าสู่ร่างกาย ในขณะที่ยาใช้ภายนอกคือยาต่าง ๆ ที่ห้ามรับประทาน ใช้สำหรับทา พ่น เหน็บ หรือหยอดโดยตรงในส่วนที่ต้องการรักษา โดยส่วนใหญ่ยาใช้ภายนอกมักเป็นอันตรายหากเผลอรับประทานเข้าไป จึงควรเก็บรักษายาโดยแยกยา 2 ประเภทนี้ออกจากกันให้ชัดเจน
-
แบ่งประเภทยาแผนโบราณ และแผนปัจจุบัน
ร่างกายของบางคนอาจถูกโรคกับการรักษาด้วยยาแผนโบราณ จึงมีทั้งยาแผนโบราณและแผนปัจจุบันอยู่ในบ้าน ซึ่งรายละเอียดเรื่องการเก็บรักษายาก็แตกต่างกัน โดยยาแผนโบราณที่มีส่วนผสมของสมุนไพรอาจต้องอาศัยความพิถีพิถันในการจัดเก็บมากกว่า ต่างจากยาแผนปัจจุบันที่สำเร็จรูปและจัดเก็บได้ง่ายกว่า จึงควรแยกเป็นสัดส่วนให้ชัดเจน หรืออยู่ในจุดที่ผู้ใช้ยาประเภทนั้น ๆ เข้าถึงได้ง่าย
-
จัดส่วนของยาสามัญประจำบ้านที่หยิบใช้ได้ง่าย
ยาสามัญประจำบ้านคือยาที่ทุกบ้านควรมีติดไว้ ควรเก็บในที่ที่คนในบ้านหาได้ง่ายแต่ไกลจากมือเด็ก โดยแบ่งเป็นกลุ่มยาตามการใช้งานอย่างชัดเจน เช่น ยาแก้ปวด ยาแก้แพ้ ยาลดน้ำมูกหรือเสมหะ กลุ่มยาดม ยาแก้อาการเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร เป็นต้น
ลักษณะของสถานที่ที่เหมาะสมสำหรับเก็บรักษายา

นอกจากเก็บรักษายาโดยแบ่งประเภทให้ชัดเจนแล้ว ก็ต้องเก็บรักษาในที่ที่เหมาะสมสำหรับยานั้น ๆ โดยพิจารณาจากข้อมูลบนฉลากยาและคุณสมบัติเหล่านี้
- สถานที่เก็บรักษายาควรห่างจากระยะที่มือเด็กเอื้อมถึง เนื่องจากอาจมีความเสี่ยงในการใช้ยาอย่างผิดวิธี
- เก็บไว้ในที่ที่พ้นจากแสงแดดและความชื้น เนื่องจากแสงแดดและความชื้นจะลดประสิทธิภาพของยา
- เก็บไว้ในที่มีอุณหภูมิเหมาะสม ตามที่กำหนดอยู่บนฉลากยา เช่น ยาบางชนิดควรเก็บในอุณหภูมิห้อง ยาบางชนิดควรเก็บในตู้เย็นเพื่อรักษาประสิทธิภาพ เป็นต้น
การเก็บรักษายาอย่างถูกต้อง นอกจากจะช่วยให้หยิบยามาใช้ได้อย่างสะดวกแล้ว ยังช่วยให้เราดูข้อมูลการใช้งานต่าง ๆ เช่น วันหมดอายุ ได้อย่างชัดเจน ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงจากการทานผิด หรือใช้ยาที่มีประสิทธิภาพลดลงได้อีกด้วย
กลับสูสารบัญ
ดูบทความที่เกี่ยวข้อง
จำนวนผู้เข้าชม : 197 เอกสารอ้างอิง Wang L, Bassiri M Fau – Najafi R, Najafi R Fau
เพราะแค่ไม่อ่านฉลากยา อาจทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้ หลายครั้งที่เราหยิบยาใส่ปากตามความเคยชิน หรือทายาตามที่คิดเอง โดยลืมใส่ใจเรื่องเล็ก ๆ อย่าง ฉลากยา ทั้งที่ความจริงแล้ว ฉลากยาคือสิ่งสำคัญที่สุดที่ช่วยให้เราใช้ยาได้อย่างถูกต้อง ปลอดภัย และได้ผลมากที่สุด บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับฉลากยาให้มากขึ้น ทำให้ทุกครั้งที่ใช้ยา เป็นการใช้ยาอย่างมีปลอดภัย
เมื่อพูดถึง ยาแก้อักเสบ หลายคนอาจนึกถึงยาที่กินแล้วช่วยลดบวม ลดปวด หรือช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น แต่รู้หรือไม่ว่า ยาแก้อักเสบ จริง ๆ แล้วมีหลายประเภท และแต่ละแบบก็มีวิธีใช้ที่แตกต่างกันไป ถ้าใช้ผิดวิธีก็อาจไม่ได้ผล หรืออาจทำให้เกิดผลข้างเคียงได้ วันนี้เรามาไขทุกข้อสงสัยเกี่ยวกับ ยาแก้อักเสบ
ในชีวิตประจำวัน การใช้ยา ถือเป็นเรื่องสำคัญ ทั้งการเลือกใช้ การเก็บรักษา รวมถึงการทำความเข้าใจประเภทของยา เช่น ยาใช้ภายนอก และ ยาใช้ภายใน เพราะการใช้ยาอย่างไม่ถูกวิธีอาจนำมาซึ่งอันตรายที่ไม่คาดคิดได้ บทความนี้ได้รวบรวมความรู้เกี่ยวกับ การใช้ยา และการเก็บรักษายาอย่างถูกต้องมาไว้ในบทความเดียว ครบ
ปอดอักเสบ หรือ Pneumonia เป็นโรคติดเชื้อที่เกิดขึ้นกับระบบทางเดินหายใจส่วนล่าง โดยเฉพาะบริเวณถุงลมปอด อาจเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส หรือเชื้อรา หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที อาจทำให้ถึงเสียชีวิตได้ โดยเฉพาะในเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัว การฉีด วัคซีนป้องกันโรคปอดอักเสบ
สเปรย์พ่นคอเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงที่มีการระบาดของไข้หวัด หรือในฤดูฝนที่อากาศชื้น อาการเจ็บคอ มักมาเยือนโดยไม่ทันตั้งตัว หลายคนหันมาใช้สเปรย์พ่นคอเพื่อลดอาการไม่สบายต่าง ๆ แต่คุณรู้หรือไม่ว่า ไม่ใช่ทุกสเปรย์พ่นคอจะเหมาะกับอาการทุกแบบ การเลือกใช้ให้ถูกต้อง ไม่เพียงแค่ช่วยให้หายเร็วขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยลดความเสี่ยงจากการใช้ ยาใช้ภายใน โดยไม่จำเป็นอีกด้วย ในบทความนี้
ในชีวิตประจำวันของเรา หลายคนคงเคยประสบกับอาการที่คล้ายอาการแพ้ ไม่ว่าจะเป็นจาม น้ำมูกไหล ผื่นขึ้น หรือคันตา ซึ่งอาการเหล่านี้มักทำให้หลายคนหยิบ ยาแก้แพ้ มารับประทานทันทีโดยไม่รู้ว่าอาการที่ตนเป็นนั้นจำเป็นต้องใช้ยาจริงหรือไม่ บางคนกินยาแก้แพ้เพื่อช่วยให้นอนหลับง่ายขึ้น หรือกินเพื่อป้องกันการแพ้ล่วงหน้า แต่รู้หรือไม่ว่า การใช้ยาแก้แพ้โดยไม่เข้าใจอาการที่แท้จริง อาจส่งผลเสียต่อร่างกายได้ โดยเฉพาะเมื่อยานั้นเป็น
ยาแก้อักเสบ เป็นหนึ่งในกลุ่มยาที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในการรักษาโรคต่าง ๆ ที่เกิดจากการอักเสบ ซึ่งรวมไปถึงการติดเชื้อจากเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส หรือแม้แต่การบาดเจ็บที่ทำให้เกิดการอักเสบในร่างกาย การกินยาแก้อักเสบอย่างถูกต้องและเหมาะสมจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาและลดความเสี่ยงจากผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ยาผิดวิธี ในบทความนี้ เราจะมาดูกันว่าการใช้ ยาแก้อักเสบ อย่างถูกวิธีนั้นเป็นอย่างไร และมีข้อควรระวังอะไรบ้าง